ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่กะทันหัน ในปลายเดือนนี้ หลังจากที่พรรคการเมืองของเขา แพ้ให้กับคู่แข่งซึ่งเป็นกลุ่มขวาจัด ในการเลือกตั้งสภายุโรป
ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฏร และจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยรอบแรกจะมีขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายน ส่วนรอบที่ 2 จะมีขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม หรือเพียง 3 สัปดาห์ ก่อนที่กรุงปารีสจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูร้อน 2024
การตัดสินใจของ นายมาครง มีขึ้นหลังจากที่พรรคเรอเนสซองส์ ของเขาแพ้ให้กับพรรคเนชันแนล แรลลี ซึ่งเป็นฝ่ายขวาจัด ด้วยคะแนนกว่า 2 เท่า หรือร้อยละ 32 ต่อร้อยละ 15 ในการเลือกตั้งสภายุโรปเมื่อวานนี้ โดยที่ผ่านมา รัฐบาลของ นายมาครง เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และหลังจากที่พรรคฝ่ายขวาจัดชนะพรรคการเมืองของเขา การเลือกตั้งสภายุโรป ยิ่งทำให้ผู้นำฝรั่งเศสมองว่า การเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปโดยไม่ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนส่วนใหญ่ จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการบริหารประเทศของเขา
โดย นายมาครง จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสอีก 3 ปีตามวาระ ซึ่งถ้าพรรคเนชันแนล แรลลี ชนะการเลือกตั้ง จะยิ่งทำให้ นายมาครง ประสบภาวะยุ่งยากมากขึ้นในการทำหน้าที่ของเขา
นางมารีน เลอ เปน ผู้นำพรรคเนชันแนล แรลลี ในสภาผู้แทนราฎษร ที่เคยพ่ายแพ้ให้กับ นายมาครง 2 ครั้ง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศว่า พรรคเนชันแนล แรลลี พร้อมที่จะใช้อำนาจ และพร้อมจะยุติการอพยพหลั่งไหลเข้าประเทศฝรั่งเศสอย่างผิดกฎหมาย หากประชาชนฝรั่งเศสให้ความไว้วางใจเลือกพรรคของเธอ