องคมนตรี ไปตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

View icon 393
วันที่ 12 มิ.ย. 2567 | 20.09 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา และพลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการ มูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เพื่อให้กำลังใจแพทย์และพยาบาล ในฐานะโรงพยาบาลแม่ข่ายที่ดูแลสถานพินิจฯ, ศูนย์ฝึกและอบรมฯ เขต 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี โดยได้จัดพื้นที่สำหรับผู้ต้องขังป่วย 2 ห้อง 4 เตียง และมีห้องผู้ควบคุม 1 ห้อง โดยองคมนตรี ได้มอบแนวทางการดำเนินงาน อาทิ การเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันการหลบหนี

สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดูแลเด็กและเยาวชนจาก 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง และชุมพร มีเด็กและเยาวชนที่ควบคุมตัว 86 คน ส่วนใหญ่เข้าสู่สถานพินิจฯ ด้วยคดียาเสพติด โดยได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกคน มีเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี มาให้ความรู้และตรวจสุขภาพอนามัย ห้องพยาบาล มียาและเวชภัณฑ์เพียงพอ มีมุมราชทัณฑ์ปันสุข และได้รับการประเมินทางจิตวิทยาทุกคน ภายในแบ่งเป็น โรงอาหาร ห้องนอน ห้องสมุด ห้องเรียน ห้องพยาบาล ห้องจริยธรรม ห้องกิจกรรมบำบัดด้านดนตรี ห้องฝึกอาชีพ

ส่วนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 8 สุราษฎร์ธานี มีภารกิจดูแล แก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่ศาลเยาวชนและครอบครัวมีคำพิพากษา ให้ควบคุมตัวและฝึกอบรมจาก 6 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ระนอง ชุมพร และพัทลุง มีเด็กและเยาวชน 140 คน โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย ให้บริการด้านสาธารณสุข ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ รักษา ส่งเสริม ป้องกัน ฟื้นฟู ด้านบริการสุขภาพจิตและจิตเวช ทุกรายได้รับการประเมินทางจิตวิทยา และเข้าสู่การแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู ตามโปรแกรมบำบัดยาเสพติด ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ทั้งยังส่งเสริมกิจกรรมฝึกทักษะอาชีพ, จัดการเรียนการสอนวิชาต่าง ๆ และจัดพื้นที่สำหรับเล่นกีฬาและออกกำลังกาย

จากนั้น ประชุมติดตามการดำเนินโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ณ เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี มีผู้ต้องขัง 5,263 คน  ซึ่งได้รับเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน 23 รายการ มีการจัดห้องและสถานที่แยกกักโรค  คัดกรองมะเร็งในกลุ่มผู้ต้องขังหญิง  ดำเนินการตามมาตรฐานสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน สำหรับผู้ต้องขัง ผ่านเกณฑ์ทุกด้าน มีระบบการส่งต่อผู้ต้องขังป่วยกับโรงพยาบาล พร้อมตรวจเยี่ยมภายในเรือนจำ อาทิ แดนผู้ต้องขังชาย แดนพยาบาล แดนผู้ต้องขังหญิง มีห้องแม่และเด็ก ห้องพยาบาล จัดทำโครงการฝึกทักษะวิชาชีพให้ผู้ต้องขัง เช่น การผลิตพวงกุญแจ, ดอกไม้จากกระดาษทิชชู งานจักสาน การทำขนม

ส่วนเรือนจำอำเภอไชยา มีผู้ต้องขัง 877 คน มีโรงพยาบาลไชยา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย โดยคัดกรองหาเชื้อซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบซี และเอชไอวีในผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกราย คัดกรองมะเร็งในกลุ่มผู้ต้องขังหญิง มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และทันตแพทย์เข้าตรวจสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากมีผู้ต้องขังป่วยจิตเวช มีอาการทางจิตกำเริบ จะตรวจรักษาผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ได้ทันที ผู้ต้องขังได้รับการขึ้นทะเบียนสิทธิ UC ขึ้นตรงกับโรงพยาบาลแม่ข่าย ทุกราย มีการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค และฟื้นฟูสมรรถภาพพื้นฐานตามกลุ่มวัย บริการให้คำปรึกษาทางสุขภาพจิต และจิตเวช ทั้งภายในเรือนจำ ผ่านระบบออนไลน์ จากนั้น ได้มอบของแก่ผู้ต้องขังป่วยและพิการ ผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์, เด็กติดผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังหญิงชราและป่วย

จากนั้น ไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโรงพยาบาลไชยา ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ พร้อมพูดคุยและให้กำลังใจแพทย์และพยาบาล ในฐานะโรงพยาบาลแม่ข่าย โดยมีห้องปันสุข telemedicine คอยให้คำปรึกษาโรคผ่านระบบออนไลน์ และส่งแพทย์เข้าไปตรวจรักษาโรคทั่วไปและทันตกรรม สัปดาห์ละ 1 ครั้ง, จิตแพทย์เข้าตรวจ 3 เดือนครั้ง หากมีอาการฉุกเฉินสามารถตรวจรักษาผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ได้ทันที

ข่าวอื่นในหมวด