วันนี้ (22 มิ.ย. 67) สภ.ท่าตะเกียบ คุณยายสมจิตร อายุ 78 ปี ชาวบ้าน ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหลานสาวคือ น.ส.วารี อายุ 31 ปี หอบเอกสารการโอนเงินเข้าพบ พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษขบวนการตุ๋นเงินโดยใช้บัญชีม้า จนคุณยายสมจิตร ต้องสูญเงินเก็บทั้งชีวิต
ด้าน พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ ได้ฟังคำบอกเล่าของคุณยาย ถึงกับอึ้ง พร้อมอุทานว่า ยายจ๋าโดนมิจฉาชีพหลอกแล้ว คุณยายนำหลักฐาน ซึ่งเป็นสลิปการโอนเงิน จำนวน 38 ใบ ที่เริ่มโอนครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. 66 มาจนถึงปัจจุบันเมื่อปลายเดือนพ.ค. 67 ยอดเงินรวม 2,900,000 บาท
โดยคุณยายเล่าว่า เมื่อปีที่แล้วได้เล่นเฟซบุ๊ก และจู่ๆก็มีชาวต่างชาติอ้างเป็นทหารรบสงคราม แชทมาขอความช่วยเหลือ บอกว่าช่วยผมด้วยผมต้องการนำกล่องที่บรรจุเงินสดดอลล่า ตีเป็นเงินไทย 53,000,000 บาท เข้ามาในประเทศไทย แต่มีค่าใช้จ่ายด้านภาษีนำเข้า หากคุณยายช่วยจะให้เงินคืนคุณยาย 7,000,000 บาท พร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับคุณยายทราบว่า เจ้าหน้าที่ ธกส. ท่าตะเกียบ เตือน คุณยายแล้วว่ามิจฉาชีพหลอก แต่คุณยายไม่เชื่อ จึงไปให้ตามร้านขายของชำแถว อ.ท่าตะเกียบ ตามร้านสะดวกซื้อโอน บอกโอนครั้งสุดท้าย เมื่อปลายเดือน พ.ค. 67 ที่ผ่านมา 2 ใบเสร็จ โอนไปบัญชีม้า รวม 500,000 บาท
คุณยาย เผยว่า รายได้ของตนเองหลังสามีเสียชีวิตก็มีสวนมะม่วงส่งออก 100 ไร่ ให้ชาวบ้านเช่าที่การเกษตรปีละ 200,000 กว่าบาท มีค่าเช่าห้องแถว คุณยายบอกผ่านสื่อว่า หากมิจฉาชีพดูข่าวช่วยนำเงินมาคืนยายบ้าง ถึงจะคืนไม่ครบก็ขอให้เอามาคืนยายแก่ชรามากแล้วที่ยายช่วยไปเพราะสงสาร
ด้าน พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ได้เชิญคุณยายขึ้นสอบสวน 2 วันติด เพื่อเตรียมออกหมายเรียกกลุ่มบัญชีม้าจำนวน 5 คน ที่ทราบชื่อ นามสกุล ที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งแล้ว เพื่อมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
