รวบแก๊งคอลฯ ตุ๋นปู่ 22 ล้านบาท หลังออก ถกไม่เถียง

View icon 358
วันที่ 26 มิ.ย. 2567 | 16.41 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา คุณปู่วัย 81 ปี มาออกรายการถกไม่เถียง กรณีถูกคนร้ายปลอมตัวเป็นตำรวจ วิดีโอคอลหา อ้างว่าให้โอนเงินมาตรวจสอบ ถ้าไม่โอนเงินมาจะถูกดำเนินคดี คุณปู่หลงเชื่อโอนเงินไป 22 ล้านบาท

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์ นำกำลังเข้าจับกุมตัวนางอัจฉรา อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย ผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเปิดบัญชีม้า"

นายไพรสัณต์ จันทร์สุริยวงศ์ หรือคุณปู่อ๊อด วัย 81 ปี อดีตหัวหน้างานด้านวางแผนธุรกิจสายงานด้านเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ตกเป็นเหยื่อถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เล่าให้เราฟังในรายการว่า มิจฉาชีพแต่งกายปลอมเป็นตำรวจวิดีโอคอลมาหลอกว่า บัญชีธนาคารของตนพัวพันกับการทุจริตในหน่วยงานราชการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีผู้ร่วมทุจริตเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และผู้น้อยกว่า 100 คน โดยอ้างว่ามีการนำเงินจากการทุจริตมาฝากผ่านบัญชีธนาคารของตน

โดยมิจฉาชีพแจ้งว่าเงินที่อยู่ในบัญชีของผู้เสียหายต้องตกเป็นของกลางในคดีอาญา แต่หากต้องไปสอบสวนที่โรงพักจะลำบาก จึงแนะนำให้ตนทำตามขั้นตอน โดยติดต่อกันผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ จากนั้นมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจได้ส่งรูปภาพที่อ้างว่าเป็นคำสั่งจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของตนทั้งหมด รวมทั้งส่งภาพที่อ้างว่าเป็นคำสั่งของ สำนักงาน ป.ป.ช. ให้ตนโอนเงิน หากตนไม่ทำตามขั้นตอนจะถูกดำเนินคดี หรืออายัดทรัพย์ ทำให้ตนเกิดความกลัว จึงหลงเชื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพจำนวน 19 ล้านบาท

นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังหลอกให้ตนจำนองขายฝากบ้านอีก 3 ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยอีก 450,000 บาท โดยให้ผ่อนชำระดอกเบี้ยเดือนละ 37,000 บาท และให้คืนเงินต้น 3 ล้านบาท

ที่เอาบ้านไปจำนองขายฝากไว้ภายในระยะเวลา 1 ปี หลังได้เงินจากจำนองขายฝากบ้านอีก 3 ล้านบาท ก็ได้โอนเงินให้แก่มิจฉาชีพไปอีก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 22,095,000 บาท

โดยคดีนี้ตำรวจไซเบอร์ได้แกะรอยสืบสวน จนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาล ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้แล้วหลายราย จนทราบว่ามีหนึ่งในเจ้าของบัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนเงินไป ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จึงได้วางแผนเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว

เบื้องต้น นางอัจฉรา ให้การยอมรับว่า ได้เปิดบัญชีให้ผู้อื่นนำไปใช้ โดยไม่รู้ว่าจะถูกนำไปใช้ในการกระทำผิด จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง