ผู้กองหญิงถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำภาพไปหลอกเหยื่อ วันนี้ (5 ก.ค.67) กรณีมีข่าวเผยแพร่ออกทางสื่อโซเชียล รวมถึงสื่อออนไลน์ ต่างๆ ว่ามีตำรวจหญิงนายหนึ่ง ในภาพแต่งเครื่องแบบ เป็นมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปติดต่อพูดคุยผ่านสื่อโซเชียล หลอกลวงประชาชน ให้ตกเป็นเหยื่อ พร้อมหลอกให้มีการโอนเงิน ด้วยสารพัดกลอุบาย รวมถึงใช้เทคโนโลยีระบบ AI เป็นภาพใบหน้าผู้กองพลอย ในชุดเครื่องแบบตำรวจ พูดคุยเหยื่อทางวิดีโอคอล หลอกให้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ อีกทั้งมีสถานีตำรวจบางแห่ง ในพื้นที่ จ.ลำพูน มีการนำข้อมูลมาเผยแพร่ เตือนภัย โดยไม่มีการตรวจสอบว่า ภาพตำรวจหญิงบุคคลดังกล่าว มีตัวตนจริง ทำให้มีคนเข้าใจผิดว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนทัวร์ลง และสร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัวและญาติพี่น้อง และกระทบต่อความเชื่อมั่น เนื่องจากเป็นครูติวเตอร์ อีกด้วย
ล่าสุด ร.ต.อ.หญิง สุจิตรา นครราช อายุ 31 ปี หรือผู้กองพลอย ตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (รอง.สว.ฝอ.ภ.จว.นพ.) ออกมาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อเอาผิดบุคคลที่ นำข้อมูลไปเผยแพร่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยไม่มีการตรวจสอบ อีกทั้งทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นมิจฉาชีพ ทั้งที่ถูกนำภาพไปหลอกลวงคนอื่น นอกจากนี้ยังได้ออกมายืนยันตัวตน พร้อมยันยันผ่านสื่อว่า มีตัวตนจริง และขอให้สื่อโซเชียล หรือสื่อออนไลน์ ที่มีการนำภาพข้อมูลไปเผยแพร่กล่าวหาว่าเป็นมิจฉาชีพ ขอให้ลบข้อมูลทั้งหมด และลงข้อความให้มีความชัดเจน ว่า เจ้าตัวไม่เกี่ยวข้อง และถูกนำภาพในชุดเครื่องแบบ ไปหลอกลวงประชาชน จนตกเป็นเหยื่อ โดยเจ้าตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยก่อนนี้เคยประสานไปยืนยันตัวตนกับแอดมินสื่อโซเชียลที่นำภาพไปลงเผยแพร่ กลับไม่มีการแก้ไข ตนจึงต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหาย อีกทั้งทำลายความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ ครูติวเตอร์สอบเข้ารับราชการตำรวจ ที่สร้างความเชื่อถือมานานหลายปี
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวว่า ยืนยัน ผู้กองพลอย ได้รับความเสียหาย กระทบไปถึงครอบครัวด้วย อยากให้ทางแอดมินเพจ หรือสื่ออนไลน์ ที่นำไปเผยแพร่ มีการไตร่ตรองให้มากกว่านี้ และต้องลงข้อมูลที่ชัดเจน ย้ำไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพ และขอยันยืนว่าเป็นตำรวจนิสัยดี ใช้เวลาว่างเป็นอาจารย์สอนวิชาการเงิน การบัญชี ลูกศิษย์หลายคนสามารถสอบงานราชการได้หลายคน การที่ต้องมาเจอข่าวแบบนี้ อยากให้แอดมินโรงพักนั้น เดินทางมาขอโทษเชิงประจักษ์ที่นครพนม เพราะการเสนอข่าวไม่ชัดเจน ไม่เป็นตามความจริง สร้างความเสื่อมเสียต่อหน้าที่การงานและวงศ์ตระกูล
