รมว.สธ. ดูงานกรมสุขภาพจิต ดูแลผู้ป่วยจิตเวชกว่า 5 ล้านคน เป็นจิตเวชจากยาเสพติดถึง 40% ทดลองโทรสายด่วน 1667 แจ้งเหตุผู้ป่วยจิตเวชคลั่งทำร้ายคน มีหลายเบอร์แต่ขาดการบูรณาการ ไม่มีแนวทางช่วยเหลือที่ชัดเจน
วันนี้ (11 ก.ค.67) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมกรมสุขภาพจิต ว่า การควบรวมภารกิจสุขภาพจิตและสารเสพติด สามารถขับเคลื่อนไปได้ แต่ขอให้ทบทวนการใช้งบประมาณให้ดี เพราะเป็นห่วงเรื่องงบประมาณ กลัวจะไม่เพียงพอ เนื่องจากมีผู้ป่วยจิตเวชกว่า 5 ล้านคน และเป็นผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดถึง 40% จึงขอให้ติดตามการแก้กฎหมาย เพื่อนำเงินของกองทุนยาเสพติด มาใช้ในการบำบัดผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 30 วัน จะได้มีงบประมาณเพียงพอในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติด
นายสมศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่า จากการทดลองโทรสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1667 และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เพื่อทดสอบระบบการแจ้งข้อมูลเมื่อพบผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดที่กำลังจะทำร้ายผู้อื่น ผลปรากฎว่า สายด่วนยังขาดการบูรณาการ ต้องขอให้ผู้แจ้ง โทรติดต่อหน่วยงานอื่นแทน เช่น ตำรวจ โรงพยาบาล และไม่มีแนวทางการช่วยเหลือที่ชัดเจน
“การทดลองโทรสายด่วน ทำให้เห็นว่า การเรียนทฤษฎีอย่างเดียวไปไม่ได้ ต้องดูการปฎิบัติด้วย สายด่วนมีหลายเบอร์ แต่ขาดการบูรณาการทุกหน่วยงาน ดังนั้น จึงต้องแก้ไขให้มีการบูรณาการและช่วยแก้ปัญหาได้จริง โดยเฉพาะคนป่วนที่กำลังจะทำร้ายคน ต้องมีตำรวจ ไปช่วยระงับเหตุด้วย ส่วนสายด่วนเบอร์ไหน ไม่มีงบประมาณ ก็ต้องดูว่า สามารถเพิ่มงบประมาณได้หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ได้ก็ต้องยุบไปรวมกับสายด่วนอื่นที่มีงบประมาณ จะได้ไม่เป็นภาระและสามารถพัฒนาได้
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรมสุขภาพจิต มีภาระหน้าที่เพิ่มขึ้นเกือบครึ่ง งานเดิมมี 60% และมีงานยาเสพติดใหม่ 40% ก็ต้องช่วยดูในเรื่องของงบประมาณให้เพียงพอด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหา
เมื่อถามถึงการผลิตแพทย์ พยาบาล เพิ่มเพื่อทดแทนอัตราการเกษียณอายุจำนวนมาก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ทำแผนการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ ส่งภายใน 2 สัปดาห์ เพราะนายกฯ ทราบดีว่า นอกจากการขาดแคลนพยาบาล ก็ยังมีปัญหาครูสอนพยาบาลด้วย โดยเรื่องนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมเร่งด่วนแล้ว ซึ่งมีแผนการเพิ่มบุคลากรแล้ว
