ชาวบ้านงง เป็นหนี้ทั้งที่ไม่ได้กู้สหกรณ์ฯ บางคนไม่ได้เป็นสมาชิก แต่ถูกนำชื่อไปยื่นกู้ มารู้ตัวเมื่อมีหนังสือเตือนให้ชำระหนี้ แทบทรุดยอดหนี้เป็นล้าน ลั่นเอาผิดถึงที่สุด
วันนี้ (19 ก.ค.67) ที่ศาลาประชาคมบ้านคอนฉิมพัฒนา อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อน จากการกระทำของผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรแห่งหนึ่ง ที่ทำให้ชาวบ้านที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเป็นหนี้หลายล้านบาท บางคนมีหนี้เพิ่มนับล้านบาท จึงรวมตัวเข้าร้องเรียนและมอบอำนาจให้ให้นายสมบัติ ชำกุล สารวัตรกำนันตำบลคอนฉิม เป็นตัวแทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ
นางประพิศ อายุ 85 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เปิดเผยว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสหกรณ์ฯ และไม่เคยเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ จู่ ๆ เมื่อประมาณกลางเดือน มิ.ย.67 หัวหน้าเขตสหกรณ์การเกษตรฯ มาหาที่บ้านพร้อมเอกสารเตือนให้ชำระหนี้ หลายสัญญา วงเงินรวม 1,672,387.32 บาท
นางประพิศ ระบุด้วยว่า เมื่อเห็นเอกสาร ยายก็งงมาก เพราะไม่เคยยื่นกู้และไม่เคยเป็นสมาชิก แต่ผู้จัดการสหกรณ์ฯ เป็นหลานสะไภ้ ยายเคยขายที่ดิน 1 แปลง ซึ่งเป็นที่ตาบอดอยู่ติดกับที่ดินของผู้จัดการสหกรณ์ฯ ในราคา 10,000 บาท มีการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์กันที่สำนักงานที่ดินสาขาพลเป็นที่เรียบร้อย หลังจากโอนที่ดิน ผู้จัดการสหกรณ์ฯ พาไปที่สำนักงานสหกรณ์ฯ บอกให้ไปรับเงินและเซ็นเอกสารที่ดิน เพื่อให้ได้โฉนดที่เป็นครุฑแดง ยายคิดว่าช่วยลูกหลานจึงตามไปที่สหกรณ์ฯ และได้เซ็นชื่อในเอกสารให้ โดยไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องหรือมีหนี้สินตามมา และยังรู้มาอีกว่ามีเพื่อนบ้านและชาวบ้านอีกหลายที่เป็นหนี้ไม่รู้ตัว คาดว่าอาจถูกปลอมลายเซ็น
จากนั้นชาวบ้าน ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.แวงใหญ่ โดยมอบเอกสาร หลักฐานที่ได้จากผู้เสียหาย 7 คน ให้พนักงานสอบสวน ซึ่งหลังรับแจ้งความ
พนักงานสอบสวน บอกว่า กรณีของสหกรณ์การเกษตรฯ มีชาวบ้านบางส่วนเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ตามขั้นตอนจะต้องสอบปากคำผู้เสียหายให้ครบทุกคน ก่อนออกหมายเรียกพยานเอกสารจากทางสหกรณ์ฯมาตรวจสอบ ขณะนี้จึงยังไม่มีการออกหมายเรียกตัวบุคคล หรือแจ้งข้อกล่าวหากับใคร
