ห้องข่าวภาคเที่ยง - ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตำรวจทุกนายที่สถานี กรณีตำรวจกักตัวไม่ให้ผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุทางถนน มีอาการเส้นเลือดในสมองแตก ไม่ให้ไปโรงพยาบาล เพราะคิดว่า "เมาแล้วขับ" ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตคาโรงพัก
ผบก.น.6 ตั้งกรรมการสอบฯ ตร.ยื้อผู้ป่วยไม่ให้ไป รพ.
หลังจาก นางสาว มะนาว อายุ 39 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอด กรณี นายกฤษณ์ ธรรมมล แฟนหนุ่ม พนักงานขับรถรับ-ส่ง ผู้โดยสารสนามบิน ขับรถไปส่งลูกค้าที่โรงแรม ย่านยานนาวา ระหว่างทางเกิดอาการเวียนหัว อาเจียน จึงโทรศัพท์บอกแฟน แฟนเลยบอกให้ไปโรงพยาบาล แต่ระหว่างนั้นอาการหนักจนไม่สามารถควบคุมรถ จึงเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับไรเดอร์หลายคัน เหตุเกิดบนถนนยานนาวา วันที่ 13 กรกฎาคม
หลังเกิดเหตุถูกตำรวจ สน.ยานนาวา ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน. เพราะคิดว่าผู้ก่อเหตุเมาแล้วขับ กระทั่งอาการผู้ป่วยเริ่มหนักจนต้องพาตัวส่งโรงพยาบาล พอไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจยื้อชีวิต พร้อมแจ้งกับญาติว่า มาช้าไป ทำได้แค่รักษาตามอาการ เป็นเวลา 3 วัน ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทีมข่าว 7HD ติดต่อไปหา ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา แต่ติดต่อไม่ได้ จึงสอบถามแหล่งข่าวภายใน สน. บอกว่า กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตำรวจทุกนายในสถานีตำรวจ รวมถึงสอบถามข้อเท็จจริงจากคู่กรณี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ให้การช่วยเหลือ ยืนยันว่า วันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และสื่อสารกับตำรวจหรือกู้ชีพไม่ได้ จึงไม่ทราบว่ามีอาการจากอะไร ซึ่งตำรวจได้พยายามสื่อสารทุกทางแล้ว จึงตัดสินใจนำทั้งรถที่เกิดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตมาที่ สน. ทั้งที่รถยังติดเครื่องอยู่ เมื่อเห็นว่าผู้เสียชีวิตอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ จึงตัดสินใจให้กู้ชีพสะเดาะประตูรถ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ยืนยันว่า เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ที่ สน. ไม่ได้ยื้อหรือห้ามผู้เสียชีวิตไปโรงพยาบาล แต่พยายามช่วยเหลือนำผู้เสียชีวิตออกมาจากรถ ส่วนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะมาจากตำรวจส่วนใดต้องรอผลการตั้งคณะกรรมการสอบสวน
เส้นเลือดในสมองแตก สังเกตได้ยาก
ด้าน กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา และกลุ่มงานบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) ให้ข้อมูลเหมือนกันว่า ภาวะเลือดออกในสมอง เป็นภาวะฉุกเฉินทางระบบประสาท ที่มีอัตราการเสียชีวิต โดยอาการมักเกิดขึ้นฉับพลันทันใด หากมีอาการและสามารถไปถึงโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ก็มีโอกาสรอดตาย ลักษณะอาการจะไม่แน่ชัด โดยทั่วไปจะมีอาการมึนงง เดินเซ ควบคุมอวัยวะบางส่วนไม่ได้ บางคนมีอาการเหม่อลอย ยอมรับว่าสังเกตอาการเบื้องต้นได้ยากมาก ลักษณะคนไข้คล้ายลูกโป่ง หรือ ก๊อกน้ำ พอแตกแล้วก็แตกเลย แทบช่วยไม่ทัน เพราะไม่มีสัญญาณเตือนก่อน
