นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ไปตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดปัตตานี เป็นวันแรก

View icon 140
วันที่ 25 ก.ค. 2567 | 20.05 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วย เลขาธิการ กปร. ร่วมพิธีดุอาอ์และลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งผู้นำศาสนาและชาวไทยมุสลิม จัดขึ้นเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการช่วยเหลือราษฎรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และทรงสนับสนุนกิจกรรมของศาสนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ราษฎรสามารถใช้ชีวิตและปฏิบัติศาสนกิจตามหลักคำสอนของศาสนาและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

ช่วงบ่าย องคมนตรี เชิญสิ่งของพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จำนวน 150 ถุง ไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 444 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอยะหริ่ง สถานีตำรวจภูธรยะหริ่ง หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 หน่วยเฉพาะกิจตำรวจปัตตานีที่ 92 ณ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 444 ตำบลบาโลย อำเภอยะหริ่ง พร้อมเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยที่ทรงมีต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ไปกล่าวเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

จากนั้น ไปเยี่ยมบ้านนายวาเดง ปูเตะ อำเภอสายบุรี ที่เคยรับเสด็จและกราบบังคมทูลถวายรายงานเกี่ยวกับสภาพพื้นที่และความเป็นอยู่ของชาวบ้าน แด่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานที่พรุแฆแฆ เมื่อปี 2535 เพื่อทรงศึกษาวิธีระบายน้ำในพื้นที่ลุ่ม ช่วงที่น้ำหลาก และการเก็บกักน้ำช่วงหน้าแล้ง เพื่อให้ชาวบ้านมีน้ำใช้เพื่อการเพาะปลูก ต่อมาจึงมีการจัดตั้งโครงการพัฒนาพื้นที่พรุแฆแฆ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในปี 2537 ซึ่งนายวาเดง ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายที่ดิน เพื่อดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก่อนเสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อปี 2555 โดยครอบครัวสืบสานเจตนารมณ์ของนายวาเดง ในการน้อมนำแนวพระราชดำริปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต

นอกจากนี้ ได้ติดตามการขยายผลการดำเนินงานศูนย์ศึกษาพิกุลทองฯ ซึ่งน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการพัฒนาพื้นที่พรุและดินทรายจัด สามารถพลิกฟื้นเป็นพื้นที่สีเขียว และใช้ทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับงบประมาณจากสำนักงาน กปร.อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการขยายผลกลุ่มเกษตรกรบ้านบาเลาะ จากเดิม 11 คน เป็น 60 ครัวเรือน เพิ่มพื้นที่การเกษตรจาก 8 ไร่ เป็น 60 ไร่ เกิดเครือข่ายเกษตรกรพื้นที่ดินทรายจัดในหมู่บ้านใกล้เคียง ราษฎรนอกภาคเกษตรกลับมาประกอบอาชีพการเกษตรมากขึ้น ชุมชนมีความรู้ในการประกอบอาชีพ มีรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยปีละ 230,000-250,000 บาทต่อปี

ข่าวอื่นในหมวด