ชายอ้างเป็นตำรวจ ตีสนิท-หลอกเชิดรถ จยย. หนี แจ้งความไม่คืบ รถยังต้องผ่อน

ชายอ้างเป็นตำรวจ ตีสนิท-หลอกเชิดรถ จยย. หนี แจ้งความไม่คืบ รถยังต้องผ่อน

View icon 116
วันที่ 26 ก.ค. 2567 | 08.47 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชายอ้างเป็นตำรวจ ขอตรวจค้นก่อนตีสนิท ชวนกินข้าว และขอเป็นเจ้ามือเลี้ยง แต่ยืมรถไปกดเงิน สุดท้ายเชิดรถหนี แจ้งความแต่คดีไม่คืบ รถยังต้องผ่อน แถมเจอข่าวยังไปก่อเหตุซ้ำในพื้นอื่น

วันนี้ (26 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นางกรรณิการ์ อายุ 37 ปี ว่า นายเอ (นามสมมุติ) ลูกชายวัย 16 ปี และนายบี (นามสมมุติ) หลานชายวัย 18 ปี ถูกชายอายุประมาณ 35 – 40 ปี หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้น ก่อนจะเข้ามาตี สนิทและวางอุบายเชิดรถจักรยานยนต์ของหลานชายหนีไป หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาชัยสน นานกว่า 3 เดือน คดียังไปไม่ถึงไหน แต่หลานชายยังต้องผ่อนรถเดือนหนึ่งกว่า 2 พันบาท

นายเอ และนายบี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า คืนวันที่ 16 เม.ย.67 นายบี ขี่รถจักรยานยนต์มารับนายเอ ญาติผู้น้อง ไปเที่ยวงานรถคลาสสิคการกุศลในพื้นที่ ตำบลนาโหนด อ เมืองพัทลุง ระหว่างทางได้แวะซื้อข้าวที่ร้านสะดวกซื้อ และนำมานั่งกินที่สวนหลวง ร.9 ข้างสถานีรถไฟ ห่างจากป้อมยามตำรวจถนนรถไฟประมาณ 100 เมตร ขณะนั่งกินข้าวอยู่มีชายสวมกางเกงขายาว เสื้อยืด มีวิทยุพกติดตัว และมีบัตรห้อยคอ เดินเข้ามาที่พวกตนขอตรวจค้นร่างกาย โดยอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชื่อเบียร์ เพิ่งย้ายมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาอยู่ชุดสืบสวน ของ สภ.เมืองพัทลุง พวกตนก็ให้ตรวจค้น หลังตรวจค้นเสร็จ ชายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ชวนคุย และขอตามไปเที่ยวที่งานด้วย โดยนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์กันไป 3 คน

ระหว่างทางนายเอ เห็นว่า คนที่ไปเที่ยวงานทยอยกันกลับจากงาน จึงต้องการกลับบ้าน แต่ชายที่อ้างเป็นตำรวจชวนไปนั่งกินกันต่อ และพาพวกตนไปนั่งกินที่ร้านคาราโอเกะริมทาง ในเขตพื้นที่เขาชัยสน จนหลังเวลาประมาณตี 2 ร้านปิด เด็กในร้านมาเก็บเงิน ชายที่อ้างเป็นตำรวจขอเป็นเจ้ามือ แต่ในตัวไม่มีเงิน และขอยืมรถจักรยานยนต์ไปกดเงินมาจ่ายค่าอาหารก่อน หลังจากชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจได้ขับรถออกไป พวกตนก็รออยู่นานกว่าชั่วโมง ก็ยังไม่กลับมา นายบีเห็นท่าไม่ดีจึงให้เจ้าของร้านโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งญาติมารับพร้อมให้ช่วยจ่ายค่าอาหาร พวกตนเชื่อว่า ชายคนดังกล่าวน่าจะไปนั่งที่ร้านดังกล่าวบ่อยครั้ง เพราะคุ้นเคยกับเด็กที่ร้าน แต่เมื่อสอบถามคนที่ร้านบอกไม่รู้จัก

ด้าน นางกรรณิการ์ เผยว่า หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทลุง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งอ้างว่าเป็นเวลากลางคืนให้มาแจ้งกลางวัน ทางครอบครัวก็สงสัยว่าทำไม จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.เขาชัยสน ในช่วงเช้าวันที่ 17 เม.ย.67 พร้อมหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด หลังจากวันแจ้งความจนถึงวันนี้ (26 ก.ค.67) ไม่มีความคืบหน้าของคดี ซ้ำหนักล่าสุด ได้เห็นข่าวในทีวีว่าชายลักษณะดังกล่าวไปก่อเหตุ โดยใช้กลอุบายเดียวกันในพื้นที่ อ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และก็ยังคงรอดไม่ถูกจับกุม ตอนนี้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องหาเช้ากินค่ำ และรถคันที่ถูกขโมยไปเพิ่งออกมาได้แค่ปีเดียว ยังมีภาระผ่อนรถอยู่เดือนละ 2 พันกว่าบาททุกเดือน โดยที่ไม่มีรถใช้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุ และรถที่ถูกขโมยส่งคืนให้หลานชาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง