ลูกบ้านรัวยิงถล่มรถผู้ใหญ่บ้าน ก่อนผู้ใหญ่ชักปืนยิงสวนกันไปมา ก่อนฝ่ายลูกบ้านจะหลบหนี คาดปมเหตุมาจากเคยให้ลูกบ้านตัดกิ่งต้นไผ่ทำไฟในหมู่บ้านดับ ทางผู้ใหญ่เชื่อรอดตายมาได้เพราะ ห้อยเหรียญ ร.5 พระสมเด็จ และสำนึกบุญคุณพ่อ-แม่
วันนี้ (7 ส.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุคนยิงกันที่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ บัวขาว ผกก.สภ.ขุนทะเล พ.ต.ท.จรูญ รอดพันชู สว.สส.สภ.ขุนทะเล เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8
ณ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านของ นายจำนงค์ เพลินแก้ว หรือผู้ใหญ่เขียว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บริเวณหน้าบ้านมีรถกระบะสีบรอนด์เงิน จอดอยู่ ที่ประตูด้านขาวมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด 1 นัด และบนพื้นพบปลอกกระสุนตกอยู่เกลื่อนหลายนัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการถาม ผู้ใหญ่เขียว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถมาจอดที่น้าบ้าน ขณะที่กำลังลงจากรถนั้น นายประภาสซึ่งเป็นลูกบ้านและมีบ้านอยู่เยื้องกันบ้านตนประมาณ 30 เมตร ได้เดินเข้ามาระยะประมาณ 3 เมตร และชักปืนออกมาจากกระเป๋าคาดเอวทางด้านหน้ารัวยิงใส่หลายนัดโดยไม่มีการพูดคุยกัน ตนจึงกระโดดหนีออกจากรถและชักปืนออกมายิงสวนเพื่อป้องกันตัว จนตนหนีออกมาด้านนอกรถทางฝั่งที่นั่งด้านข้างคนขับได้ ก่อนที่นายประภาสจะหนีไป ซึ่งตนก็แน่ใจว่าหนีไปทางไหน
ส่วนสาเหตุนั้นทางผู้ใหญ่เขียวยังไม่แน่ใจ เพราะตนและผู้ก่อเหตุก็ไม่คุยกัน แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ตนกับผู้ก่อเหตุเคยมีปัญหากันเรื่องก่อไผ่ที่ปลูกในที่ดินของนายประภาส เนื่องจากต้นไผ่สูงมาพาดสายไฟฟ้าทำให้เกิดไฟฟ้าดับในหมู่บ้าน ตนจึงไปบอกให้นายประภาสทำการตัดแต่งต้นไผ่ แต่นายประภาสกลับไม่พอใจ และก่อนวันเกิดเหตุต้นไผ่ก่อเดิมได้พาดสายไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าดับอีก และทางเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าได้เข้ามาตัดแต่งกิ่งต้นไผ่ไม่ให้มาพาดสายไฟ จึงอาจเป็นไปได้ว่า นายประภาสอาจเข้าใจว่าตนเป็นคนสั่งให้ตัด ซึ่งตนไม่ได้รู้เรื่อง ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าที่รอดมาได้จากอาจเป็นเพราะ ตนแขวนเหรียญรัชกาลที่ 5 และพระสมเด็จติดตัวตลอด แต่ที่สำคัญกว่าคือตนเองสำนึกถึงบุญคุณพ่อแม่ผู้มีพระคุณมาโดยตลอด จึงทำให้รอดชีวิตมาได้
ด้าน พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป ซึ่งตนได้เรียกประชุมวางแผน ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าหลบหนีไปที่ไหน หรือได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
