หนุ่มนักแสดงซีรีย์ชื่อดังพาแฟนสาวและแม่แฟนซ้อนท้ายเจ็ตสกี บิดกลับบ้านหลังจากกินข้าวเสร็จพุ่งชนเข้ากับเรือหางยาวของชาวบ้าน ทางแฟนสาวและแม่บาดเจ็บ ส่วยชาวบ้านบนเรือหางยาวเสียชีวิต 2 คน
วันนี้ (18 ส.ค. 67) ศูนย์กู้ชีพปราการได้รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ว่า มีเรือพุ่งชนกันกลางแม่น้ำมีคนจมน้ำสูญหายและมีผู้บาดเจ็บ บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างฝากฝั่งพระราม 3 กับฝากฝั่งพระประแดงใกล้ท่าน้ำ จึงประสานกำลังอาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางไปตรวจสอบ
ณ ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บถูกช่วยเหลือแล้ว และนำเรือที่ประสบเหตุเข้ามาจอดที่ท่าน้ำ วัดบางกระเจ้านอก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จากตรวจสอบที่เกิดเหตุพบจุดจมน้ำสูญหายห่างจากท่าน้ำประมาณ 100 เมตร พบผู้บาดเจ็บ 2 คน เป็นหญิงอายุ 17 ปี และแม่ของหญิงคนดังกล่าว อายุ 41 ปี ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้งสองคนนั่งซ้อนท้ายมากับเรือเจ็ตสกีซึ่งได้พุ่งชนกับเรือหางยาว พบว่ามีอาการบาดเจ็บฟกซ้ำตามแขนขาและปวดเจ็บตามร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งสองคนส่งโรงพยาบาลเปาโลพระประแดง นอกจากนั้นยังมีผู้จมน้ำสูญหายอีก 2 คน เป็นหญิงวัย 44 ปี ซึ่งเป็นผู้โดยสารมากับเรือหางยาว และชายอายุ 64 ปี เป็นคนขับเรือหางยาว ทางเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังนักประดาน้ำและผู้เชี่ยวชาญใต้น้ำวางแผนการค้นหา โดยประสานไปยังกรมเจ้าท่าให้แจ้งประสานเรือสินค้าและเรือทุกชนิดให้เพิ่มความระมัดระวังในที่เกิดเหตุ ระหว่างทีมลงค้นหาผู้สูญหาย
จากสอบถาม นาย ชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือคิวพี นักแสดงละครซีรีส์ ซึ่งเป็นคนขับเจ็ตสกีลำที่พุ่งชนเรือหางยาว โดยเจ้าตัวเล่าว่า ตนเองขี่เจ็ตสกีมีแฟนสาวและแม่ของแฟนมาในลำเดียว โดยออกเดินทางมาจากย่านพระรามสองเพื่อพากันมากินข้าวที่ย่านพระประแดง โดยมากันทั้งหมด 5 ลำ มีลำของตนเองที่มา 3 คน หลังจากที่กินข้าวเสร็จ ตนและเพื่อนอีกลำกำลังพากันขี่เจ็ตสกีกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุค่อนข้างมืดและไม่เห็นเรือคู่กรณีที่ขับข้ามฝากมาจากอีกฝั่ง เพื่อนตนหักหลบทัน ส่วนตนหลบไม่ทันจึงพุ่งชนเข้าอย่างจัง ประกอบกับเรือหางยาวไม่มีไฟหรือสัญญาณไฟแต่อย่างใด เหตุการณ์ครั้งนี้ตนไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิด เพราะมันกระชั้นชิดจริง ๆ ยอมรับว่ายังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทาง นายมงคลสวัสดิ์ อายุ 48 ปี สามีของหญิงโดยสารเรือหางยาวที่จมน้ำสูญหาย เล่าว่า ตนและภรรยากำลังนั่งเรือข้ามฝาก ซึ่งเป็นเรือประมงหางยาวขนาดเล็ก โดยมีคุณลุงที่รู้จักกันเป็นคนขับพาข้ามฝาก เพื่อจะข้ามจากฝั่งบางกระเจ้านอกไปฝั่งพระราม 3 เพื่อจะไปทำธุระ ระหว่างที่เรือกำลังขับข้ามฝั่ง ปรากฏว่ามีเจ็ตสกีมาพุ่งชนจนทำให้คนขับเรือและภรรยาของตนกระเด็นตกน้ำส่วนตัวเองรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด
เมื่อเวลา 23.00 น . เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำอยู่ระหว่างการค้นหาร่างผู้สูญหายทั้งสองราย ซึ่งจะต้องวางแผนการค้นหาอย่างรอบครอบเนื่องจากกระแสน้ำค่อนข้างแรงและเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีพื้นที่กว้างมาก จึงกลายเป็นอุปสรรคในการค้นหาของเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตามทางด้านพนังกานอสบสวนของ สภ.พระประแดง ได้เชิญตัวนายคิวพี และเพื่อนร่วมขบวนไปสอบปากคำเบื้องต้นที่ สภ.พระประแดง เพื่อทำประวัติไว้เบื้องต้นก่อนจะเชิญมาสอบอย่างละเอียดและพิจารณาดำเนินการตามกำหมายต่อไป
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ชุด้พบร่างผู้สูญหายทั้งสองคนแล้ว ซึ่งจมน้ำเสียชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จึงพบร่างผู้เสียชีวิตทั้งสอง ซึ่งนอกจากจะพบร่างผู้เสียชีวิตแล้วยังพบเครื่องเรือหางยางจมน้ำในจุดดังกล่าวอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงทำการกู้ร่างทั้งสองขึ้นมาจากใต้แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เจ้าหน้าที่การชันสูตรเบื้องต้น
โดยมีทางด้านลูกสาวคนขับเรือหนึ่งในผู้เสียชีวิตมารอดูการค้นหาของเจ้าหน้าที่และเจ้าตัวถึงกับร้องไห้ทรุดลงกับพื้นหลังจากทราบข่าว ขณะที่มีการเปิดเผยคลิปวีดีโอที่ถ่ายจากมือถือของชาวบ้านก่อนนเกิดเหตุสลดขึ้น พบว่ามีกลุ่มเรือเจ็ตสกีของ นายคิวพีขับผ่านน่านน้ำแม่น้ำเจ้าพระยามุ่งหน้ามายังร้านอาหารย่านบางกระเจ้า ซึ่งจากคลิปจะเห็นว่ากลุ่มเรือเจ็ตสกีขับกันค่อนข้างเร็ว
ทาง พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง ผ่านทางโทรศัพท์ ระบุว่า คดีนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายใครผิดก็ว่ากันไปตามผิดตามพยานหลักฐาน โดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ มอบหมายให้ พ.ต.อ. ประภาส มั่งคั่ง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ลงมาควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเอง ขณะที่ผลการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายจากการตรวจวัดของพนักงานสอบสวนพบว่าค่าเป็น 0 และไม่พบใบขับขี่เรือของคิวพีแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี้ก็ต้องร่วมกับทางกรมเจ้าท่าดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในทางคดีตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาฝ่ายใด จะต้องเชิญตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดและพิจารณาจากหลักฐานต่าง ๆ อีกครั้งจึงจะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ขณะที่กรมเจ้าท่าเผยว่า เรือเจ็ตสกีที่เกิดเหตุ ชื่อเรือ เจ.เอ.พี.พี หมายเลขทะเบียนเรือ 670000026 ขนาด 0.42 ตันกรอส ใบอนุญาตหมดอายุวันที่ 21 ธันวาคม 2567 ชื่อเจ้าของเรือ ว่าที่ ร.ต. พรทวี จันทร์ม่วง ผู้ขับขี่ ชื่อนายชินดนัย แซ่ลิ้ม จากการตรวจสอบข้อมูลไม่พบประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือ หรือที่เรียกว่าใบขับขี่เรือของ นาย ชินดนัย หรือ คิวพี ทั้งนี้ตามรายงานพบว่าเรือเจ็ตสกีลำดังกล่าว มีการจดทะเบียนไว้ระบุราคาตัวเรือพร้อมเครื่องยนต์ ราคาสูงถึง 7 ล้านบาท
