โจรสไปเดอร์แมนหลอนยา ปืนหลังคาลักเหล็กโชว์รูมรถเก่า ยืนด่ากราดตำรวจ อ้างไม่ได้ทำอะไรผิด
วันที่ 19 สิงหาคม 2567 ขณะที่ ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุคนร้ายขึ้นไปขโมยเหล็กหลังคาโชว์รูมรถเก่ารกร้าง ตั้งอยู่บริเวณทางพาดรถไฟ ถ.เลี่ยงเมืองอุดรธานี-สกลนคร ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ยืนเอะอะโวยวายด่ากราดใส่คนงาน ที่มาแผ้วถางป่าให้เจ้าของพื้นที่ เพื่อปลูกต้นมะม่วง จึงนำกำลังสายตรวจ 191 ลายตรวจเขตงาธรรมศักดิ์ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชายอายุประมาณ 30-35 ปี ทราบชื่อคือ นายเอก ยืนอยู่บนหลังคาโชว์รูมรถเก่า ด้วยอาการคลุ้มคลั่งพูดจาวกวน ไม่รู้เรื่อง ด่าตำรวจ คนงาน และนักข่าว จับใจความได้ว่า “ตนเองยังไม่ได้ทำอะไรผิด จะมาจับตนในข้อหาอะไร ครั้งก่อนจับตนไป 3 วันก็ปล่อยออกมา เพราะไม่มีผู้เสียหาย หรือเจ้าทรัพย์ วันนี้ตนจะนอนอยู่บนหลังคาไปจนกว่า ตำรวจและคนงานจะกลับออกไปจากที่ตรงนี้ทั้งหมด” ซึ่งตำรวจไม่เสี่ยงที่จะปีนขึ้นไปจับตัว เพราะอยู่ที่สูง และเกรงจะได้รับอันตราย
ตำรวจจึงตรวจยึดรถจักรยานยนต์ สีขาว ที่คนร้ายขี่มาก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายอ้างว่ายืมแม่มาขี่ โดยตำรวจจะได้นำรถไปตรวจสอบว่าเป็นรถที่โจรกรรมมาหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบถุงพลไม้ กับข้าววางอยู่ในโชว์รูม มีการก่อกองไฟผิง และตากรองเท้าผ้าใบไว้บนพื้นอยู่ด้านนอก คาดว่าเป็นของนายเอกทั้งหมด
สอบถามนายชาญชัย อายุ 56 ปี หน.คนงาน เล่าว่า วันนี้ตนขับรถกระบะพาคนงาน 10 คน มาปรับพื้นที่ เพื่อปลูกต้นมะม่วงในพื้นที่ของนายจ้าง ทำมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ไม่ได้มาทุกวันเพราะฝนตก เจ้าของที่จึงให้ตนคอยดูแล ถ้ามีคนมาลักตัดเหล็กในอาคารโชว์รูมรถเก่า ให้โทรแจ้งทันที วันนี้ตนก็เห็นคนร้ายเข้ามา จึงโทรแจ้งนายจ้าง จากนั้นจึงเดินเข้าไปสอบถาม คนร้ายว่ามากันกี่คน ในช่วงที่ตนเห็นมีเพียงคนเดียว คนร้ายก็พูดดี ๆ กับตน จึงถามว่าเอาเหล็กไปไหน บอกตนว่าเอาไปทำสะพาน ตนถามอีกว่า ทุกวันได้เข้ามาตัดเหล็กหรือไม่ เขาก็ว่าได้เข้ามา แต่เอาไปขายแล้ว มาด้วยกัน 3 คน ครั้งนี้ก็มาอีก แต่ตนเห็นคนเดียว
“ก่อนหน้านี้นายจ้างได้แจ้งตำรวจมาจับคนร้ายไปแล้วครั้งนึง ส่วนอีก 2 คน ได้ปล่อยไปเพราะสำนึกผิดรับปากว่าจะไม่มาก่อเหตุอีก โดยมาขโมยเหล็ก ทุบเสาปูนเอาเหล็กป้องอ้อยไปขาย แต่ขณะนั้นคนที่อยู่บนหลังคาเอะอะโวยวายใส่นายจ้าง ตำรวจจึงควบคุมตัวไปโรงพักให้ตำรวจว่ากล่าวตักเตือน กระทั่งช่วงเช้าวันนี้เห็นมาคนเดียว ตอนนั้นพูดคุยดี ๆ อยู่เลย แต่ช่วงสายมีคนเยอะทั้งตำรวจ แลละนักข่าว จึงเริ่มมีอาการดีด ด่ากราดไปทั่ว สงสัยอยากดัง”
