ไร้ญาติประกัน 2 พี่น้องต้มเหล้าขาวเถื่อน ส่งซุ้มยาดอง คอตกนอนคุก หลังตำรวจฝากขัง ค้านประกัน ชี้ โทษสูง หวั่นหลบหนี
วันนี้ (31 ส.ค.67) ที่ศาลอาญามีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ พนักงานสอบสวนสน.มีนบุรี ได้ควบคุมตัวนายสุรชัย หรืออาร์ท อายุ 43 ปี และนายสุรศักดิ์ หรือเอส อายุ 46 ปี 2 พี่น้อง ผู้ต้องหาคดีผลิตเหล้าขาวเถื่อน โดยไม่ได้รับอนุญาตมายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก
โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 24 ส.ค.67 ปรากฏภาพในสื่อออนไลน์ว่า มีผู้ดื่มสุรายาดองในเขตพื้นที่ สน.มีนบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า มีอาการเลือด เป็นกรด ตาพร่ามัว เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ลงพื้นที่พบมีซุ้มยาดองที่ผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการบริโภค โดยซื้อสุรายาดองมาจาก น.ส.ภัสส์รศา หรือเจ๊ปู อายุ 49 ปี ซึ่งรับว่าเป็นผู้ผลิตยาดองจริง โดยรับสุราขาวมาจาก ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จึงทำการเก็บวัตถุพยานไปตรวจ
จากการตรวจสอบพบสารเมทิลแอลกอฮอล์ (เมทานอล) ปะปนอยู่กับสุรายาดอง ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรับว่า ผลิตสุราขาวเพื่อจำหน่ายให้ น.ส.ภัสส์รศา หรือเจ๊ปู ทำสุรายาดองจริง และจากการตรวจร่างกายผู้ป่วย แพทย์พบสารเมทิลแอลกอฮอล์ตรงกันกับสารเมทิลแอลกอฮอล์ที่ได้จากภาชนะและขวดสุราขาวที่ผู้ต้องหาทั้งสองนำมาให้ น.ส.ภัสสรศา หรือเจ๊ปู ซึ่งหากบริโภคและพบเมทิลแอลกอฮอล์ในเลือดปริมาณมากกว่า 20 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป จะเป็นอันตรายแก่ร่างกายถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองเกี่ยวข้องกับการผลิตสุราขาว โดยใช้เมทิลแอลกอฮอล์ส่งให้ น.ส.ภัสส์รศา หรือเจ๊ปู เพื่อนำไปผสมสุรายาดองจำหน่ายตามซุ้มสุรายาดองต่าง ๆ ให้ลูกค้าทั่วไป เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ได้รับอันตรายสาหัส ได้รับอันตรายแก่กาย
พนักงานสอบสวนจึงขออำนาจศาลอาญามีนบุรี ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เหตุเกิดที่ บริเวณร้านขายสุรายาดอง ตลาดปากซอยสามวา 11/1วันที่ 18 สิงหาคม2567 เวลาประมาณ 15.00 น. และ ร้านขายสุรายาดองปากซอยสามวา 1 วันที่ 22 สิงหาคม2567 เวลาประมาณ 12.46 น. ถนนสามวา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องบริเวณซอยหทัยราษฎร์21 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องที่บริเวณซ.กาญจนาภิเษก 25 แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร เกี่ยวพันกัน
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ หรือจำหน่าย หรือเสนอขายสิ่งเช่นว่านั้นเพื่อบุคคลเสพหรือใช้ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความ ตาย, ร่วมกันผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 236, 238 และ 288 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 153 และ 193 อัตราโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี
ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพเฉพาะข้อกล่าวหาร่วมกันผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำพยานอีก 6 ปาก อาทิ ประจักษ์พยาน และพยานแวดล้อม จึงขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองไว้ระหว่างสอบสวนเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.-11 ก.ย. นี้
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีอัตราโทษสูง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ไม่ปรากฏมีญาติของผู้ต้องหามายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหา 2 พี่น้องไปควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีต่อไป
