เปิดปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ทลายเครือข่ายยาเสพติด พ.อ.จะลอโบ ยึดทรัพย์ 66 ล้านบาท

เปิดปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ทลายเครือข่ายยาเสพติด พ.อ.จะลอโบ ยึดทรัพย์ 66 ล้านบาท

View icon 299
วันที่ 31 ส.ค. 2567 | 18.24 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ป.ป.ส. นำทีมบูรณาการ ทหาร-ตำรวจ-อัยการสูงสุด เปิดปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ตรวจค้น 13 จุด ทลายเครือข่าย พ.อ.จะลอโบ นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ จับผู้ต้องหาในเครือข่าย ยึดทรัพย์ 66 ล้านบาท

วันนี้ (31 ส.ค.67) พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และหน่วยงานความมั่นคง ประกอบด้วย พล.ต.ต.ธนะรัชน์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ชายแดน กฤษณสุวรรณ ผบ.พล.ร.7 รอง ผบ.นบ.ยส.35, นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รอง ผวจ.เชียงใหม่, พล.ต.ท. คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. ร่วมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่หน่วยต่าง ๆ กว่า 150 นาย ปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ครั้งที่ 1 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 13 จุด ในจังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ เพื่อสกัดกั้นและทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือตอนบน

ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้ 25 จังหวัด เป็นพื้นที่เร่งด่วนแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน ภายใต้แผน “ปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน” โดยมุ่งเน้นลดบทบาทเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบน

เป้าหมายสำคัญของปฏิบัติการครั้งนี้คือ การทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดของ พ.อ.จะลอโบ อดีตรองผู้บัญชาการ กองบัญชาการควบคุมทางทหาร 171 กกล.ว้าใต้ (UWSA) และนายวีระ หมื่นจะดา ซึ่งเชื่อมโยงกับคดียาเสพติดรายใหญ่ เมื่อเดือนมี.ค.67 ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางไอซ์ 309 กิโลกรัม และเฮโรอีน 230 กิโลกรัม ในพื้นที่ สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และจากการสืบสวนขยายผลพบว่า เครือข่ายของ พ.อ.จะลอโบ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่รัฐฉาน ประเทศเมียนมา เข้าสู่ประเทศไทยผ่านทางพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยมีการว่าจ้างกลุ่มผู้ลำเลียงชาวไทย และกลุ่มผู้ประสานงานจากพื้นที่เมืองต่วน ประเทศเมียนมา

ผลการปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในเครือข่ายของ พ.อ. จะลอโบ ได้ 4 ราย และยึด/อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ 20 แปลง มูลค่าประมาณ 61,450,000 บาท, บัญชีเงินฝาก 16 บัญชี มูลค่าประมาณ 472,00 บาท, เงินสด 210,000 บาท, ยานพาหนะ  6 คัน  มูลค่าประมาณ 3,000,000 บาท, ทองรูปพรรณ 7 รายการ มูลค่าประมาณ 570,000 บาท, ทรัพย์สินอื่น ๆ 10 รายการ มูลค่าประมาณ 400,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ทั้งสิ้น 66,102,000 บาท

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยมุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ในการดำเนินคดีกับกลุ่มทุน ผู้มีอิทธิพล รวมถึงการใช้ พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 (MLAT) เพื่อการขยายผลเครือข่ายยาเสพติดทั้งในและต่างประเทศ ตัดวงจรการค้า ลดปัญหาการแพร่ระบาดในประเทศ และลดความเดือดร้อนของประชาชนอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ยังคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดย สำนักงาน ป.ป.ส. จะยังคงเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยบรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง