ขยายผลสอบเส้นทางการเงิน ส่วยรถบรรทุก

View icon 291
วันที่ 4 ก.ย. 2567 | 11.12 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ผลการตรวจสอบพยานหลักฐาน โดยเฉพาะบัญชีธนาคาร ที่ได้จากการจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องคดีส่วยรถบรรทุกรอบใหม่ ทำให้ตำรวจเชื่อว่ายังมีคนที่มีตำแหน่งใหญ่กว่าผู้ต้องหา เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย

ขยายผลสอบเส้นทางการเงิน ส่วยรถบรรทุก
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พูดถึงเรื่องนี้ว่า ตำรวจได้พยานหลักฐานสำคัญ เป็นบัญชีม้า, ข้อมูลในโทรศัพท์ และในโน้ตบุ๊ก เชื่อว่าถ้าตรวจสอบเสร็จแล้ว จะเจอว่าเชื่อมโยงไปถึงใครบ้าง ก็จะใช้ข้อมูลส่วนนี้ขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

พร้อมกันนี้ตั้งข้อสังเกตว่า การทุจริตมีการพัฒนารูปแบบ เช่น การส่งมอบเงินสดกันแทนการโอนเงินผ่านบัญชี ส่วนผลการสอบปากคำผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้ง 4 คน มีคำให้การพาดพิงถึงบุคคลอื่นอยู่ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ก็ทำให้เชื่อว่าคดีนี้มีคนที่อยู่ระดับสูงกว่านี้เกี่ยวข้องแน่

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ข้อมูลเส้นทางการเงินที่ตำรวจไปเจอ จะมีตัวละครที่เกี่ยวข้องครบทั้ง 4 คน เริ่มจาก "ประทิน" บัญชีม้า พบมีการโอนเงินช่วงปี 2565-2566 ประมาณ 6.2 ล้านบาท บัญชีธนาคารของ "นายธงชัย" ซึ่งทำหน้าที่หน้าเสื่อ คอยเคลียร์กับผู้ประกอบการรถบรรทุก ปี 2558 ถึงปัจจุบัน มีเงินหมุนเวียนเข้าออกกว่า 126 ล้านบาท แล้วยังเจอว่ามีการโอนเงินไปยังบัญชีส่วนตัวของ "นายนพดล" นายช่างเครื่องกลอาวุโส กรมทางหลวง 31 ครั้ง เป็นเงินกว่า 3.1 ล้านบาท

ส่วนบัญชีส่วนตัวของนายนพดล แค่บัญชีเดียวมีทั้งการรับโอนเงิน และฝากเงินเข้าบัญชีนี้ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบันกว่า 13 ล้านบาท แล้วคนที่ฝากเงินเข้าบัญชีนี้ คือ "นายเอนก" หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักด่านขุนทด โอนเงินตั้งแต่ช่วงปี 2563-2566 รวมเป็นเงินกว่า 5.5 ล้านบาท

และเส้นทางการเงินของนายเอนก ก็ไปเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินผู้ประกอบการรถบรรทุกโดยตรง ในลักษณะจ่ายเป็นรายเดือน เดือนละ 5,000-100,000 บาท เฉพาะปี 2563-2566 มีเงินเข้าไปในบัญชีกว่า 11 ล้านบาท

เงินที่พัวพันอยู่กับผู้ต้องหา 4 คนนี้ อยู่ในหลัก 10 ล้านบาท แล้วที่เหลืออีกกว่า 100 ล้านบาท หายไปไหน ซึ่งน่าจะมีคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีก

จี้รัฐบาล ทลาย ส่วยรถบรรทุก
กรณีรับส่วยรถบรรทุก นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง อดีตประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย บอกว่า ยังมีอีกเยอะ จากเดิมใช้รูปแบบสติกเกอร์ ปัจจุบันเปลี่ยนรูปแบบรับส่วยผ่านช่องทางกลุ่มไลน์แล้ว และรูปแบบการรับส่วยจะแยบยลมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่เชื่อ ยังมีโอกาสเห็นข่าวจับกุมคดีใหญ่กว่านี้อีก โดยชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ดำเนินการเด็ดขาด

ฝากประชาชนช่วยกันแจ้ง หากพบรถบรรทุกเกินขนาด เพื่อตัดวงจรผิดกฎหมายให้หมดไป สร้างสวัสดิภาพความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะรถบรรทุกเกินขนาด ส่วนใหญ่เกิดอุบัติเหตุ จะสร้างความเสียหายวงกว้าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง