สาวสุดช้ำ หมอวินิจฉัยโรคผิด แพ้ยาที่ฉีดทำตามองไม่เห็น หน้าเสียโฉม

สาวสุดช้ำ หมอวินิจฉัยโรคผิด แพ้ยาที่ฉีดทำตามองไม่เห็น หน้าเสียโฉม

View icon 480
วันที่ 8 ก.ย. 2567 | 15.39 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สาวหน้าตาดีสุดช้ำ ร้องสายไหมต้องรอด หมอรพ.ชื่อดังวินิจฉัยโรคผิด แพ้ยาที่ฉีดตามองไม่เห็นหน้าเสียโฉม ปัดความรับผิดชอบ

(8 ก.ย.67) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางสาวศศินันท์ อายุ 31 ปี พร้อมกับสามี เดินทางมาขอความช่วยเหลือกับ นายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด  เนื่องจากไปรักษาอาการตาแดงกับเจ็บคอ กับโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง แต่หมอวินิจฉัยโรคผิด ฉีดยาแก้แพ้ให้เธอถึง 3 ครั้ง ทำให้เธอเกิดอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง ต้องส่งเข้าห้องไอซียู นอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนาน  3 เดือน หลังจากหมอให้กลับบ้านได้ ต้องมาทนทุกข์กับสภาพใบหน้าที่เสียโฉม ตามองไม่เห็นใกล้บอด ต้องตกงาน แต่ทางโรงพยาบาลไม่รับผิดชอบ เพียงแค่ให้เธอกลับมารักษาตามอาการ

นางสาวศศินันท์  เล่าให้ฟังว่า วันที่ 18 มิ.ย. ตนเองมีอาการตาแดง จากนั้นได้ซื้อยามากินแต่อาการไม่ดีขึ้น วันที่ 20 มิ.ย. เธอจึงเข้ารักษาที่โรงพยาบาลชื่อดัง ย่านพหลโยธิน ด้วยอาการเจ็บคอและตาแดง  หลังจากเข้ารักษา หมอได้วินิจฉัยว่ามีอาการต่อมทอมซินอักเสบ จึงได้ฉีดยาแก้แพ้ให้ 1 เข็ม แล้วให้กลับบ้าน 

หลังกลับมาบ้านได้ไม่นาน เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก ผื่นขึ้นเต็มตัว ตาเริ่มมองไม่ชัด ปากบวม จึงโทรศัพท์ไปสอบถามที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงนัดให้มาพบหมอเฉพาะทางในวันที่ 21 มิ.ย. โดยหมอเฉพาะทางได้วินิจฉัยโรคว่า อาจจะเป็นโรคอีสุกอีใส หมอได้ฉีดยาแก้แพ้ตัวเดิมเพิ่มให้อีก แล้วให้นอนโรงพยาบาล หลังจากที่ตนฉีดยาไปไม่นาน อาการเริ่มหนักขึ้น ผื่นแดงเริ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม ตาซ้ายมองไม่เห็น ตาขวามองเห็นเพียง 50 % จึงรีบแจ้งพยาบาล

ต่อมาวันที่ 22 มิ.ย. หมอรีบนำตัวตนเข้าห้องไอซียู  และฉีดยาแก้แพ้ตัวเดิมให้อีกเป็นเข็มที่ 3 ทำให้เธอมึนเบลอ ร่ายกายเริ่มชาไม่มีความรู้สึก ต้องนอนอยู่ในห้องไอซียูถึง 7 วัน แต่อาการไม่ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลที่ 2

โรงพยาบาลที่ 2 ได้วินิจฉัยว่าตนเองเป็นโรค”สตีเวนส์จอห์นสัน ระดับ10“ ตนเองได้รักษาอยู่ที่โรงบาลที่ 2 อีก 1 เดือน 15 วัน อาการผื่นแดงหยุดลุกลาม แต่ตายังมองไม่ค่อยเห็นเหมือนเดิม ทางโรงพยาบาลที่ 2 จึงส่งตัวกลับมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแรก หลังกลับมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแรก ได้ 1 เดือน ทางโรงพยาบาลได้ให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ทั้งที่ตายังมองไม่ค่อยเห็น  และมีแผลที่ตกสะเก็ดจากผื่นที่ขึ้นตามใบหน้าและร่างกาย โดยอ้างว่าเดี๋ยวจะนัดมารักษาตามอาการอีกครั้ง   ตอนนี้ใช้ชีวิตลำบากมาก ตาขวามองเห็นเพียง 50% ส่วนตาซ้ายมองเป็นฝ้าสีขาว จะเดินไปไหนตามลำพังไม่ได้ ต้องมีคนจูงมือตลอด 

นางสาวศศินันท์ บอกอีกว่า รู้สึกเสียใจที่ต้องมาป่วยแบบนี้ ก่อนป่วยมีชีวิตที่สดใส เป็นพนักงานไอที กำลังจะเปิดช่องขายของทาง YouTube แต่ความฝันต้องพังทลายหมด เพราะหมอวินิจฉัยโรคผิด ฉีดยาแก้แพ้ถึง 3 ครั้ง จนตนต้องป่วยอยู่ในสภาพนี้ 

สิ่งที่กังวลมากที่สุดในตอนนี้คือ อยากให้ทางโรงพยาบาลแรกที่รักษาตน ช่วยรักษาตาตนเองให้กลับมามองเห็นให้ได้  อยากให้โรงพยาบาลรับผิดชอบ ด้วยการจัดยาดีๆ ที่อยู่นอกประกันสังคมมาให้ และอยากเรียกร้องค่าเสียหายทั้งเรื่องต้องถูกให้ออกจากงาน รวมถึงการเสียโฉม ให้โรงพยาบาลรับผิดชอบตรงนี้ด้วย

ทางด้านนายนิรันดร์ เกแง้ว กล่าวว่า หลังจากนี้จะติดต่อกับโรงพยาบาลรักษาผู้เสียหาย จะลองพูดคุยดูว่าจะเยียวยาผู้เสียหายในส่วนไหนได้บ้าง และพรุ่งนี้จะพาผู้เสียหายไปพบกับนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงสาธารณสุข เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ และช่วยตรวจสอบว่าโรงพยาบาลที่รักษาผู้เสียหาย มีความผิดหรือไม่ รวมถึงช่วยหาหมอที่เก่งมารักษาโรคให้ผู้เสียหายด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง