ทวีปอเมริกาใต้ กำลังเผชิญไฟป่ารุนแรง ซึ่งปีนี้ ทำสถิติไฟป่ารุนแรงที่สุดในโลก ข้อมูลดาวเทียมที่วิเคราะห์โดยสำนักงานวิจัยอวกาศของบราซิล (INPE) เปิดเผยว่า ปีนี้ ทวีปอเมริกาใต้กำลังเผชิญกับไฟป่ารุนแรงที่สุด ตั้งแต่ป่าฝนแอมะซอน ของบราซิล ไปจนถึงป่าพรุที่ใหญ่ที่สุดในโลก และป่าแห้งในโบลิเวีย ทำลายสถิติเดิมของไฟป่าที่เกิดขึ้นในรอบปี จนถึงวันที่ 11 กันยายน โดยปีนี้ เกิดไฟป่าถึง 346,112 จุดใน13 ประเทศของทวีปอเมริกาใต้ ทำลายสถิติเดิมเมื่อปี 2550 ที่มีไฟป่าขนาดใหญ่เกิดขึ้น 345,322 จุด
โดยทางการบราซิล และโบลิเวีย ได้ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันนาย เข้าไปควบคุมไฟป่า แต่อุปสรรคสำคัญคือ สภาพอากาศที่รุนแรง ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงให้ไฟป่าลุกลามหนักขึ้นไปอีก นักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า แม้ไฟป่าส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ แต่สภาพอากาศร้อน และแห้งแล้ง ในช่วงนี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้ไฟลุกลามเร็วขึ้น โดยอเมริกาใต้ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนหลายระลอกตั้งแต่ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ หน่วยงานตรวจสอบภัยพิบัติแห่งชาติ (Cemaden) รายงานว่า แม้ว่าซีกโลกใต้จะยังอยู่ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา อุณหภูมิที่สูงในเมืองเซาเปาโล ยังอยู่ที่กว่า 32 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ภัยแล้งในบราซิล เริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่มีมา
จากข้อมูลของเว็บไซต์ ไอคิวแอร์ ดอทคอม (IQAir.com) เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เปิดเผยว่า เมืองเซาเปาโล ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในซีกโลกตะวันตก มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก ซึ่งสูงกว่าจุดที่มีมลพิษสูงอย่าง จีนและอินเดีย ขณะที่ กรุงลาปาซ ของโบลิเวียก็ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันเช่นกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว เดือนกันยายนจะเป็นเดือนที่เกิดไฟป่ามากที่สุดในอเมริกาใต้
