สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2565 - 2566 เป็นวันแรก

View icon 142
วันที่ 18 ก.ย. 2567 | 20.04 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 12.23 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปยังศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2565 - 2566 ระหว่างวันที่ 18 - 21 กันยายน 2567

ในปีการศึกษา 2565 สภามหาวิทยาลัยฯ มีมติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และปีการศึกษา 2566 มีมติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ภูมิศาสตร์) แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

ในการนี้ พระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 คน, พระราชทานโล่เกียรติยศแก่อาจารย์ตัวอย่างดีเด่น ประจำปี 2566 - 2567 จำนวน 6 คน และพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี รวม 2,222 คน

โอกาสนี้ พระราชทานพระโอวาท ความว่า "บัณฑิตทั้งหลายถือได้ว่าเป็นผู้มีความรู้สูง ย่อมมุ่งหวังที่จะออกไปประกอบอาชีพการงานให้ประสบความสำเร็จ สร้างตัวสร้างฐานะเพื่อความยั่งยืนของชีวิต ตลอดจนสร้างประโยชน์และความเจริญมั่นคงให้แก่ส่วนรวมและประเทศชาติ ในการทำงานสร้างสรรค์ประโยชน์นั้น แต่ละคนควรจะได้ยึดมั่นในพระราชปณิธาน ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกที่ว่า "ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง" ทั้งนี้ เพราะประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์คือประโยชน์ส่วนรวม อันเป็นประโยชน์ที่ทุกคนจะได้รับร่วมกัน และเมื่อส่วนรวมได้รับประโยชน์ คือความเจริญมั่นคงแล้ว แต่ละคนผู้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนรวมก็ย่อมมีความเจริญมั่นคงในชีวิตและกิจการงานด้วย บัณฑิตทุกคนไม่ว่าจะประกอบอาชีพการงานใดก็ตาม จึงต้องมุ่งประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน และนำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาในมหาวิทยาลัย ประกอบกับความรู้ที่ได้ขวนขวายศึกษาเพิ่มเติม ไปใช้ในการทำงานให้สำเร็จผลอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความขยันหมั่นเพียร และความซื่อสัตย์สุจริต ถ้าทำได้ดังนี้ แต่ละคนก็จะสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ ทั้งประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ อันเป็นความสำเร็จแท้จริงที่ทุกคนพึงปรารถนา"

ข่าวอื่นในหมวด