สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดพัทลุง และจังหวัดสงขลา

View icon 116
วันที่ 23 ก.ย. 2567 | 20.05 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 10.39 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยทักษิณ ประจำปีการศึกษา 2566 โดยปีนี้ สภามหาวิทยาลัยฯ มีมติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญารัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงเล็งเห็นว่าการจะพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาคนในประเทศ จึงทรงส่งเสริมการศึกษาของเยาวชนไทยในทุกระดับการศึกษา และในทุกภูมิภาคอย่างทั่วถึง

จากนั้น พระราชทานปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน, พระราชทานเกียรติบัตรแก่อาจารย์ตัวอย่างและบุคลากรตัวอย่างของมหาวิทยาลัยทักษิณ 5 คน และพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก โท และตรี รวม 2,775 คน โอกาสนี้พระราชทานพระราโชวาทแก่ผู้สำเร็จการศึกษาความสำคัญตอนหนึ่ง ว่า "บัณฑิตทั้งหลายเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในศาสตร์ของตน ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ในการประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตัว และอุปการะผู้มีคุณแก่ตนตามความเหมาะสม อันนับเป็นกิจเบื้องต้นที่แต่ละคนพึงกระทำเมื่อสำเร็จการศึกษา นอกจากนี้ ยังมีกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การตอบแทนสังคม ด้วยการสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ชุมชน ท้องถิ่น และประเทศชาติ อันเป็นที่อยู่ที่อาศัยและสร้างตัวสร้างฐานะของทุกคน ด้วยการสร้างสรรค์ประโยชน์ดังกล่าวนั้นอาจกระทำได้หลายทาง ทางหนึ่งที่แต่ละคนจะทำได้ คือ นำความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ของตนมาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ อย่างที่เรียกกันว่า นวัตกรรมเพื่อสังคม ซึ่งอาจเป็นแนวคิด แนวปฏิบัติ หรือประดิษฐกรรม ที่มีคุณค่าและคุณประโยชน์ สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อันเป็นการเสริมสร้างสังคมให้เข้มแข็ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน หากบัณฑิตตั้งตัวตั้งใจให้มั่นคง ที่จะเกื้อกูลสังคมตามกำลังความรู้ความสามารถ และลงมือปฏิบัติให้สำเร็จผลอย่างดีที่สุดแล้ว ประโยชน์และความเจริญก้าวหน้าก็จะบังเกิดขึ้น ทั้งแก่บัณฑิตเองและประเทศชาติพร้อมทุกส่วน"

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานปริญญาบัตร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรการขับร้องเพลงประสานเสียง ชื่อเพลง "ดอกเหงื่อของความพยายาม" โดยนิสิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ ร่วมกับผู้บริหาร และบัณฑิต ซึ่งรองศาสตราจารย์ ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ เป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้อง

เวลา 14.02 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังคณะพยาบาลศาสตร์ ทรงเปิด "อาคารเทพรัตน์วิทยารักษ์" ซึ่งจัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2562 เพื่อรองรับการบริหาร การจัดการเรียนการสอน และพัฒนานิสิตของคณะพยาบาลศาสตร์ในมิติต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานของสมาคมวิชาชีพการพยาบาลแห่งประเทศไทย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทาน ชื่อว่า "อาคารเทพรัตน์วิทยารักษ์" หมายถึง อาคารของผู้ที่รักในการแสวงหาความรู้อันมีคุณวิเศษดุจดวงแก้วแห่งเทพ และพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย "สธ" มาประดิษฐานที่ป้ายชื่ออาคารฯ โดยก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2567 มีพื้นที่กว่า 12 ไร่ ประกอบด้วยกลุ่มอาคาร จำนวน 4 หลัง ได้แก่ อาคารสำนักบริหาร, อาคารเรียนและปฏิบัติการ, อาคารหอพักนิสิต และศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ

คณะพยาบาลศาสตร์ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีทักษะทางปัญญาและทักษะทางวิชาชีพตามมาตรฐานสากล ด้วยการสร้างองค์ความรู้ศาสตร์ทางการพยาบาล บูรณาการกับการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ สู่นวัตกรรมทางการพยาบาล สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ รวมถึงธำรงไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยการผสมผสานบูรณาการองค์ความรู้สมัยใหม่กับภูมิปัญญาชุมชน

เวลา 15.39 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พลตำรวจเอก สมศักดิ์ แขวงโสภา (บ้านทุ่งสบายใจ) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นครั้งที่ 8 พร้อมพระราชทานสิ่งของแก่ครูใหญ่ และผู้แทนนักเรียน โดยก่อตั้งเมื่อปี 2522 เปิดสอนระดับอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบัน มีนักเรียน 89 คน ครูตชด. 8 นาย และครูอัตราจ้าง 4 คน ในการนี้ ทรงเปิดป้ายชื่อโรงเรียนฯ ซึ่งมีมติเปลี่ยนชื่อ เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พลตำรวจเอก สมศักดิ์ แขวงโสภา อดีตผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานด้านความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนจนเป็นที่ประจักษ์

สำหรับความก้าวหน้าการดำเนินงานของโครงการตามพระราชดำริด้านต่าง ๆ อาทิ ผลการประเมินความสามารถ การฟัง พูด อ่าน เขียนผ่านเกณฑ์ทุกคน, ด้านการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา นักเรียนได้เข้าศึกษาต่อทุกคน โดยมีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ 45 คน ปัจจุบัน กำลังศึกษา 14 คน สำเร็จการศึกษาและทำงานในอาชีพต่าง ๆ 15 คน

ด้านทักษะวิชาชีพ ส่งเสริมให้นักเรียนฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การสานกระเป๋าจากซองกาแฟ, การสานโคระด้วยใบมะพร้าว ป้องกันแมลงมาเจาะผลไม้ พร้อมส่งเสริมให้ความรู้ทางการเกษตร, ส่วนวิชาสหกรณ์ ได้ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมแก่ผู้เรียนผ่านกิจกรรมร้านค้า สหกรณ์ออมทรัพย์ มีปราชญ์ชาวบ้านมาถ่ายทอดความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีกิจกรรมขยายผลสู่ชุมชน อาทิ เลี้ยงสัตว์ ประมง ปลูกพืชผัก ผลไม้ เพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน

นอกจากนี้ มีพระราชดำริให้ใช้ "อาคารเกษตรศิริสุข" ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีสำนักงานเกษตรอำเภอสะเดา มาให้ความรู้ ส่งเสริมการจัดทำกองทุนหมู่บ้าน "ชื่อกลุ่มแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร บ้านทุ่งสบายใจ" มีสมาชิก 30 ครัวเรือน ส่วนการสัญจรในชุมชน ได้ปรับปรุงถนนแล้วเสร็จทั้ง 3 เส้นทาง และการแก้ปัญหาน้ำอุปโภค-บริโภค กรมชลประทาน ได้ก่อสร้างถังเก็บน้ำ ขนาด 1,600 ลูกบาศก์เมตรในโรงเรียน 1 จุด และในชุมชนอีก 2 จุด

จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยทันตกรรมพระราชทาน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ออกหน่วยให้บริการทันตกรรม ร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ มีผู้รับบริการ รวม 225 คน และทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน จากโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ โรงพยาบาลสะเดา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สาธารณสุขอำเภอสะเดา และโรงพยาบาลจิตเวช สงขลาราชนครินทร์ ที่ให้บริการตรวจสุขภาพทั่วไปแก่นักเรียน และราษฎร มีผู้เข้ารับบริการ 140 คน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ในการนี้ ทรงรับผู้ป่วยโรคลมชัก โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และโรคสมองอักเสบ ไว้เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ โดยจะส่งรักษาต่อโรงพยาบาลเฉพาะทางที่อย่างเหมาะสมต่อไป

ข่าวอื่นในหมวด