ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกฯ แพทองธาร เป็นประธานในงานเปิดตัวโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 โอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการวันแรก พร้อมยืนยันเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในปีหน้า
นายกฯ คิกออฟโอนเงินหมื่นวันแรก
เวลา 09.00 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดตัว (Kick Off) การโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยใช้แคมเปญว่า "เงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจ" โดยมีคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมในงานอย่างพร้อมเพรียง
นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ประเทศไทยจะถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ เงินสดถึงมือคนไทย ระบบเศรษฐกิจจะถูกเติมเงินหมุนเวียนกว่า 145,000 ล้านบาท สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ เป็นครั้งแรกที่ทำให้คนไทยได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ต่อลมหายใจให้พี่น้องประชาชนรายเล็กที่กำลังเดือดร้อน
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ จะถึงมือพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง 14.55 ล้านคน แบ่งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.4 ล้านคน และกลุ่มคนพิการ 2.15 ล้านคน ทุกคนจะได้รับเงินสดคนละ 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผ่านช่องทางการรับเบี้ยเดิมของผู้พิการเมื่อเงินเข้าบัญชีสามารถนำไปใช้จ่ายได้ทันที ซึ่งการโอนเงินจะทยอยโอนให้ถึงมือพี่น้องประชาชนภายใน 4 วัน (25, 26, 27 และ 30)
นางสาวแพทองธาร บอกว่า นโยบายนี้จะช่วยทำให้พี่น้อง มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่างที่ได้เคยกล่าวไว้ ขอเน้นย้ำว่านโยบายนี้เป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีกมากมาย พร้อมย้ำว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการดิจิทัลต่อเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับคนไทย ทำให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ กับหน่วยงานรัฐสะดวกขึ้น โปร่งใสตรวจสอบได้ อีกหน่อยเรื่องการเยียวยารัฐจะสามารถโอนตรงสู่ประชาชนได้
นายกฯ วิดีโอคอลคุยชาวบ้านได้เงินหมื่น
ภายหลังเปิดงาน นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับประชาชนที่วิดีโอคอลมาจากจังหวัดต่าง ๆ ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ สมุทรสาคร มุกดาหาร และอุตรดิตถ์ โดยนายกฯ ได้สอบถามว่า ได้เงิน 10,000 หรือยัง ได้ตั้งแต่เวลาเท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนกลุ่มแรกได้รับเงินกันตั้งแต่ช่วงหลังเที่ยงคืน รวมทั้งวิดีโอคอลพูดคุยกับกลุ่มผู้พิการ จากจังหวัดสมุทรสาครด้วย โดยนายกรัฐมนตรี บอกว่า รู้สึกดีใจกับประชาชนด้วย และอยากให้พายุหมุนลูกนี้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร ยังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เน้นย้ำว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นในปี 2568 อย่างแน่นอน
"จุลพันธ์" ยันไม่มีหักเงินหมื่นใช้หนี้ ธ.ก.ส.
นายจุลพันธ์ ยังยืนยันว่า จะแจกเงินเฟส 2 จำนวน 10,000 บาทแน่นอน เพราะต้องเดินหน้าโครงการในรูปแบบของดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนจำนวนสิทธิ หากตัดจำนวนที่ซ้ำกับกลุ่มเปราะบางแล้ว จะเหลือประมาณ 26 ล้านคน
ส่วนกรณีที่ในโซเชียลแชร์กระแสข่าวโอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีแล้ว ถูกธนาคารหักหนี้ออกไปเพื่อใช้หนี้เดิมนั้น ยืนยันว่า เมื่อประชาชนได้รับเงินโอนเข้าตามธนาคารที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์ ไม่มีนโยบายให้ธนาคารใดหักเงินออกจากบัญชีแน่นอน
ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โพสต์ชี้แจงว่า โอนเงินวันแรกเข้าบัญชีกลุ่มผู้พิการและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1.6 ล้านรายการ ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 เงิน 10,000 บาท จากรัฐบาล ครบถ้วนเต็มจำนวนแล้ว โดยยืนยันว่า ธ.ก.ส. ไม่มีนโยบายหักชำระหนี้ หรือเรียกเก็บเงินค่าบริการอื่นใดทั้งสิ้น
สส.ยิ้มโพสต์คลิป "จุลพันธ์" กินบะหมี่
ด้าน สส.ยิ้ม นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย และอดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ภรรยาของ นายจุลพันธ์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน x เป็นภาพขณะ นายจุลพันธ์ กำลังกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่ลูกชิ้น พร้อมกับน้ำอัดลมใส่น้ำแข็ง และขนมเปี๊ยะ ด้านหน้ามีกล่องขนมปังสังขยาวางอยู่ โดยนางสาววิสาระดี ได้ระบุข้อความว่า "เงินหมื่นออกปุ้ป รมต.โซ้ยมาม่าเลย" หลายคนเข้ามาแสดงความเห็นเอ็นดูจำนวนมาก บางคนชมว่า ท่านน่ารักจัง เดี๋ยวได้เงินหมื่น อยากเลี้ยงกาแฟท่านสักแก้ว
แนะเร่งผูกพร้อมเพย์-ทำบัตรคนพิการรับเงินหมื่น
วันนี้ (25 ก.ย.) กลุ่มที่ได้รับเงิน 10,000 บาท คือ คนพิการที่มีบัตรคนพิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนลงท้าย เลข 0 ส่วนวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) จะโอนเข้าบัญชีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนลงท้ายเลข 1, 2, 3 วันที่ 27 กันยายน 2567 โอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนลงท้าย เลข 4, 5, 6, 7 และวันที่ 30 กันยายน 2567 โอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนลงท้าย เลข 8 และ 9
สำหรับกลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับเงินในรอบแรกวันนี้ คือ 1.คนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ 2.คนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ ซึ่งสามารถขึ้นทะเบียนทำบัตร หรือ ต่ออายุบัตรผู้พิการให้เรียบร้อภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ 3.คนพิการที่ขึ้นทะเบียนขอมีบัตรประจำตัวคนพิการครั้งแรก หลังวันที่ 31 สิงหาคม 2567 และ 4.ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน
ต้องผูกพร้อมเพย์ก่อนวันจ่ายเงิน 3 วัน เช่น กลุ่มที่จะได้รับเงินวันนี้ (25 กันยายน) ต้องผูกพร้อมเพย์ ก่อนวันที่ 22 กันยายน ดังนั้นคนที่เพิ่งผูกพร้อมเพย์วันที่ 23-24 กันยายน ยังไม่ได้รับเงิน
โดยกระทรวงการคลัง จะมีโอนซ้ำอีก 3 ครั้ง กรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรกครั้งที่ 1 รอบจ่ายซ้ำจ่ายเงินภายในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 คนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ หรือ บัตรหมดอายุ ต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 และผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ครั้งที่ 2 รอบจ่ายซ้ำจ่ายเงินภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 และผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ครั้งที่ 3 รอบจ่ายซ้ำจ่ายเงินภายในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เมื่อพ้นกำหนดการโอนซ้ำครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
"อดิศร" แต่งกลอนยินดีคนรับเงินหมื่น
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการคิกออฟการโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการว่า ขอยินดีกับประชาชนที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ขอให้ใช้เงินนั้นให้เป็นประโยชน์พร้อมกล่าวเป็นกลอนว่า "คนไทยยิ้มรื่นชื่นใจสโมสร กลุ่มเปราะบางผู้พิการแสนออนซอน พร้อมไชโยสะออนและเบิกบาน" ซึ่งรัฐบาลก็มีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามนโยบายที่หาเสียงไว้
เตือนกลุ่มเปราะบางรับเงินหมื่น ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝากเตือนไปถึงผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ให้ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง และอย่าไปหลงเชื่อ เพราะวันนี้เงินเริ่มออกไปแล้ว และหลายคนก็เริ่มได้รับเงินแล้ว ย้ำว่า อย่าไปหลงเชื่อ ผ่านการพูดจาหว่านล้อม และชักชวนในรูปแบบต่าง ๆ
เรามาเช็คการบ้าน นายกฯ แพทองธาร กันบ้างว่า ทำอะไรบ้างแล้ว หลังจากนางสาวแพทองธาร ขึ้นมาได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม โครงการได้ดำเนินการไปแล้ว อาทิ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567, พักชำระหนี้เกษตร, เยียวยาน้ำท่วม, ส่วนที่กำลังทำอยู่ อาทิ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่นายกฯ ยืนยันว่า จะเดินหน้าต่อ คาดว่าจะได้ในปี 2568 ส่วนค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ต้องรอการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ซึ่งนายกฯ เร่งให้ขึ้นค่าจ้างให้ได้ภายในปีนี้ ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังอยู่ระหว่างการหารือ ซึ่งตอนแรก พรรคเพื่อไทยนัดพรรคร่วมรัฐบาลหารือในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แต่ล่าสุด ได้มีการเลื่อนออกไปแล้ว
"ภูมิธรรม" ขอยุติแก้ รธน.ขอโฟกัสเศรษฐกิจ-น้ำท่วม
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า เรื่องนี้จบแล้ว ตอนนี้ยังไม่คุย ขอโฟกัสเรื่องน้ำท่วมช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน และการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน หลังจากนี้จึงคุยกัน ส่วนวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ไม่มีการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ขอยุติก่อน ขอห่วงประชาชนก่อน เพราะประชาชนกำลังลำบาก
ขอบคุณภาพจาก : X @YimVisaradee