นายกรัฐมนตรีประเทศตูวาลู เรียกร้องให้สหประชาชาติเร่งแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ก่อนที่ตูวาลูจะจมหายไปในทะเล ซึ่งคาดว่าอีก 26 ปี เกาะฟูนาฟูตีของตูวาลู จะจมอยู่ใต้ทะเลครึ่งหนึ่ง
วันนี้ (26 ก.ย. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรี เฟเลติ เตโอ ของประเทศตูวาลู ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมระดับสูงของสหประชาชาติ โดยเรียกร้องให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ก่อนที่ ประเทศตูวาลู จะจมหายไปในทะเล
โดยปัจจุบัน ประเทศตูวาลู ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล เฉลี่ยเพียง 2 เมตร และกำลังประสบกับปัญหาระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นประมาณ 15 เซนติเมตร ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 1.5 เท่า
ทางนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซา (NASA) คาดการณ์ว่า ภายในปี พ.ศ.2593 หรืออีกประมาณ 26 ปีข้างหน้า กระแสน้ำทะเลขึ้นลงรายวันจะทำให้เกาะ "ฟูนาฟูตี" ของประเทศตูวาลู ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรตูวาลูประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ จะจมอยู่ใต้น้ำทะเลครึ่งหนึ่ง โดยเกาะแห่งนี้ มีพื้นที่แคบบางส่วนเพียง 20 เมตรเท่านั้น
ทั้งนี้ ตามสนธิสัญญาสำคัญด้านสภาพอากาศ และความมั่นคงกับออสเตรเลีย ที่ประกาศใช้ เมื่อปี 2566 เปิดโอกาสให้ชาวตูวาลู 280 คน อพยพไปยังออสเตรเลียทุกปี โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป หลังการเยือนตูวาลูเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และแนวโน้มการย้ายถิ่นฐานถาวร
ขณะที่ทางคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ จะออกรายงานเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นในปีหน้า เพื่อแสดงการสนับสนุนว่า สถานะการเป็นประเทศของตูวาลูจะดำเนินต่อไป ไม่ว่าแผ่นดินของประเทศจะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด หรือบางส่วน จากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
