ครบ 1 ปี กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล ซึ่งนำไปสู่การสู้รบที่ขยายวงกว้าง อิสราเอลยังคงเดินหน้าโจมตีเลบานอนและฉนวนกาซาอย่างหนัก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคืนเข้าสู่วันครบ 1 ปี เหตุการณ์กลุ่มฮามาส (Hamas) บุกโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัว โดยอิสราเอล ยังคงเดินหน้า โจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซา และเลบานอนอย่างหนัก จนทำให้ท้องฟ้าเหนือกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน สว่างจ้าไปด้วยลูกไฟขนาดใหญ่จากโจมตีของอิสราเอล ซึ่งความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มอิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) ในเลบานอน ทวีความตึงเครียดขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากอิสราเอลได้สังหารผู้นำกลุ่มฮามาสและผู้นำกลุ่มอิซบอลเลาะห์
ขณะเดียวกัน กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดเผยว่าได้โจมตีเป้าหมายหลายจุดในฉนวนกาซา รวมทั้งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งอิสราเอลระบุว่าถูกใช้งานโดยนักรบกลุ่มฮามาส
ขณะเดียวกัน ชาวอิสราเอลในหลายเมืองทั่วประเทศ ออกมาชุมนุมกันอย่างสงบ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2566 ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตี และสังหารคนไปกว่า 1,200 คน พร้อมจับตัวประกันราว 250 คน ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ 101 คน โดยอิสราเอลได้โต้กลับอย่างหนักและยาวนาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาเกือบ 42,000 คน
นอกจากนี้ หลายประเทศทั่วโลก อาทิ ตุรกี ฝรั่งเศส เยอรมนี และอาร์เจนตินา พากันออกมาร่วมชุมนุมในโอกาสครบ 1 ปี สงครามกาซา พร้อมเรียกร้องให้เกิดสันติภาพในฉนวนกาซา และปล่อยตัวประกันโดยเร็ว
ส่วนที่บ้านพักครอบครัวศรีอ้วน ในตำบลท่าลี่ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี นายต่อม และนางวิวแวว บิดาและมารดาของนายวัชระ ศรีอ้วน หรือ ตี๋ หนึ่งในแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันในฉนวนกาซา ยังคงมีความหวังว่าลูกชายยังคงมีชีวิต และจะได้รับการปล่อยตัวในที่สุด เช่นเดียวกับลูกสาวของนายตี๋ อายุ 9 ขวบ ที่ยังคงรอบิดาด้วยความหวัง ทั้งนี้ ยังมีตัวประกันคนไทยอีก 6 คน ที่ยังคงไม่ได้รับการปล่อยตัว