ร้องถูกคนอ้างตัวช่วยเคลียร์คดี โกงซ้ำซ้อน

View icon 40
วันที่ 9 ต.ค. 2567 | 11.23 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - พนักงานบริษัทเอกชน เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับตำรวจสอบสวนกลาง หลังถูกฉ้อโกงซ้ำซ้อนถึง 2 ครั้ง ซ้ำเติมความเดือดร้อนที่ถูกหลอกลงทุน จนสูญเงินไปร่วมกว่า 6 ล้านบาท

ผู้เสียหายนำพยานหลักฐานเป็นเอกสารการดำเนินคดีมายืนยัน เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2562 ตนถูกหมอเถื่อนหลอกฉ้อโกงให้ลงทุนเป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท ตอนนั้นได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

จากนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเป็นแม่ค้าแบรนด์เนมติดต่อมา อ้างว่า รู้จักกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "ผู้กำกับการ" สามารถช่วยคดีได้ แต่ต้องมีค่าดำเนินการ 50,000 บาท ตนจึงยอมโอนเงินไป ปรากฎคดีก็ไม่เห็นจะมีความคืบหน้าอะไร พอทวงถามจึงรู้ว่าถูกหลอก แต่ก็ไม่กล้าเข้าแจ้งความ เพราะกลัวอีกฝั่งจะเอาข้อมูลเหล่านี้ไปบอกกับผู้ต้องหาที่เป็น หมอเถื่อน

จนผ่านไปอีก 4-5 เดือน มีหญิงสาวที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมเดียวกันที่ประเทศมาเลเซียติดต่อมา อ้างว่า เป็นลูกสาวของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "ผู้กำกับการ" ในจังหวัดชลบุรี และมีพี่สาวเป็น "ทนายความ" สามารถช่วยเหลือคดีได้ แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการ 150,000 บาท เป็นค่าเคลียร์ตำรวจ และจ่ายอีก 350,000 บาท เป็นค่าใต้โต๊ะให้อัยการรับเรื่อง แล้วก็ต้องมีค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับอีก 20,000 บาท รวม ๆ แล้วต้องไปกู้ยืมคนอื่นมา ก่อนโอนให้ไปทั้งหมด 520,000 บาท

ซึ่งคราวนี้ มีตำรวจระดับผู้กำกับการ ไปดูสำนวนคดีให้จริง บอกว่า สำนวนค่อนข้างอ่อน สู้คดีไปก็ไม่ชนะ จึงขอให้ผู้เสียหายมาเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า พื้นที่อำเภอหาดใหญ่ แล้วนั่งทำสำนวนคดี สอบปากคำกันนานกว่า 10 ชั่วโมง ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ

กระทั่งทราบว่า หมอเถื่อน ที่เป็นคู่กรณี ถูกจับกุมในคดีอื่น จึงทวงถามความคืบหน้าคดีกับ หญิงสาว ก็ได้รับการยืนยันว่า อัยการ รับเรื่องแล้ว แต่พอตรวจสอบกับ ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ กลับแจ้งว่ายังไม่ได้ส่งสำนวนคดีให้อัยการ จึงทวงถามไปยัง ผู้กำกับการ ก็ต้องตกใจหนักไปกว่าเดิม ที่บอกว่าไม่รู้เรื่องรับเงินเลย ที่ไปช่วยทำสำนวนให้ เพราะไปด้วยใจล้วน ๆ

ที่ตัดสินใจมาขอความยุติธรรม เพราะลูกชายคนเดียวของเธอป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จำเป็นต้องใช้เงินในการรักษา อยากให้ตำรวจสอบสวนกลาง ช่วยเอาผิดกับคนที่หลอกเธอด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง