ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ทนายเดชา ลั่นเอาจริง เตรียมแจ้งความท่าน ว.วชิรเมธี และพิธีกรรายการดังปมเอี่ยว The iCon Group เผยไม่ควรละเว้นคนใส่จีวรหรือเครื่องแบบ ย้อนไปดูคลิปท่าน ว.วชิรเมธี ขณะเทศน์ในงานของบริษัท
ทนายเดชา จ่อเอาผิดพระดัง ปมเทศน์เชียร์
นี่เป็นคลิปขณะ พระเมธีวชิโรดม หรือรู้จักกันดีในนามปากกา ว.วชิรเมธี นั่งเทศน์ให้เหล่าบอสคนดังของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป บางช่วง ท่าน ว.วชิรเมธี ได้เทศน์ระบุว่า “อดทนให้ได้ ใจเย็นให้พอ และรอให้เป็น ลูกจงฝึกตัวเอง ถ้าลูกอยากได้เงิน จงทำอาชีพที่เห็นเงิน เป็นนักขายสิลูก หน่วยก้านอย่างหนู ไปหาคอร์สดี ๆ ฝึก แล้วหนูลงทุนในเวลา แล้วหนูจะเก่ง เธอก็ไปถามครูว่า สอนหนูวันเดียว 10 ชั่วโมงได้ไหม เพราะหนูอยากรวยเลยพรุ่งนี้ พระอาจารย์บอกลูกเอ้ย ทำอย่างนั้นก็ดิไอคอนแล้ว” หลังคลิปนี้เผยแพร่ออกไปก็ถูกวิพากวิจารณ์ถึงความเหมาะสมอย่างกว้างขวาง
ล่าสุด นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทนายความ และประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ไลฟ์สดถึงประเด็นนี้ว่า จะเอาจริง จะไปแจ้งจับ พระบอส หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี ตอนนี้ต้องรอให้ตำรวจแจ้งข้อหาบรรดาบอสให้เสร็จก่อน แล้วหลังจากนั้นจะรวบรวมคลิปต่าง ๆ ที่ผู้เสียหายส่งมา แล้วจะไปแจ้งความ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวมีส่วนทำให้คนเชื่อ เนื่องจากท่านเป็นพระท่านผู้ใหญ่ แล้วไปพูดว่าถ้ามาทำงานกับบริษัทนี้ ขายตรง ชั่วข้ามคืนจะกลายเป็นเศรษฐี มองว่าการที่เป็นพระต้องสอนให้คนลดละกิเลส ไม่ใช่สอนให้คนโลภ
ว.วชิรเมธี กลับจากกิจนิมนต์พรุ่งนี้
ล่าสุดทีมข่าวพยายามประสานไปยังทีมงานของท่าน ว.วชิรเมธี พบว่า จะกลับจากกิจนิมนต์ในต่างประเทศวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) ส่วนจะมีแถลงข่าวถึงประเด็นที่ถูกพาดพิงหรือไม่ จะมีการประสานแจ้งอีกครั้ง
ดรามา ตาลปัตร ตราดิไอคอนฯ
ขณะเดียวกันเพจ “บิ๊กเกรียน” แชร์ภาพงานทำบุญบริษัท The iCon Group เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีท่าน ว.วชิรเมธี นั่งเทศน์ในงาน ด้านหลังจะสังเกตเห็นตาลปัตรที่ไม่เหมือนตาลปัตรธรรมดาทั่วไป แต่ถูกสั่งทำเป็นพิเศษ บนตาลปัตรมีโลโก้ The iCon Group ติดอยู่ โดยเพจบิ๊กเกรียน ระบุข้อความว่า “สาธุเจ้าค่ะ”
แฉตำรวจ นั่งแท่นโคช
เพจดัง ยังเผยภาพ คอร์ส The iCon Group มีตำรวจ นั่งแท่น ‘โคช’ สอนทำคอนเทนต์ พบหิ้วกระเป๋าไปเที่ยวเมืองนอกกับบริษัท ถ่ายรูปกับเหล่าผู้รับจ้างพีอาร์ฉ่ำ ๆ
โดยเพจเฟซบุ๊ก The iCon Group หลักฐานแชร์ลูกโซ่ ได้โพสต์ภาพใบปลิวออนไลน์ โฆษณาคอร์สของธุรกิจ ระบุว่า “คอร์ส TikTok โคช สร้างคอนเทนต์ให้ปังด้วยมือถือเครื่องเดียว” ซึ่งเป็นภาพของชายที่อยู่ในชุดเครื่องแบบตำรวจ
ทั้งนี้ จากการสืบค้นข้อมูล พบว่า นายตำรวจรายดังกล่าว อ้างว่าเป็นตำรวจยศ ส.ต.ท. ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใน สภ.แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสงขลา ตรวจสอบช่องทางโซเชียลต่าง ๆ ของโคชรายนี้ ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นสมาชิกของ The iCon Group โดยมีการเพิ่มช่องทางติดต่อเป็นลิงก์
รอง ผบช.ภ.9 เรียกสอบ โคชตำรวจ
วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงประเด็นดังกล่าว โดยทาง พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีการเรียกตัวตำรวจนายดังกล่าว เข้าพบที่ห้องประชุม เพื่อสอบถามเรื่องทั้งหมด
หลังทำการสอบถามตำรวจนายนี้เสร็จ ทาง พล.ต.ต.สาธิต ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบและสอบถาม เจ้าตัว บอกว่า ขายของออนไลน์มาหลายประเภท ซึ่งทราบว่าก่อนหน้าขายครีม และเข้าสู่ธุรกิจขายตรงเมื่อปี 63 และได้เข้ามาเริ่มดูแผนการตลาดของ The iCon Group จนเกิดความสนใจจึงได้เข้ามาเรียนรู้ และสมัครมาเป็นสมาชิก ตั้งแต่ยอดการขาย 2,500 บาท จนถึงตอนนี้ล่าสุดยอด 250,000 บาท ซึ่งมีการขายของด้วย หาสมาชิกด้วย
ส่วนเรื่องว่าเจ้าตัวรู้หรือไม่ว่าธุรกิจนี้หลอกลวงสมาชิก ตำรวจนายนี้ก็ชี้แจงว่าตัวเขาเองไม่ทราบจริง ๆ ว่ามีการหลอกลวง ถ้าทราบคงจะไม่ทำ เบื้องต้นเจ้าตัวมีเจตนาที่จะขายของอย่างเดียว แต่ทั้งนี้ต้องฟังผลสรุปจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป และต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าตัวด้วย
เลขาฯ แพทยสภา แจ้งความ บอสหมอเอก
ขณะเดียวกันล่าสุดเลขาฯ แพทยสภา เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายฐานานนท์ หรือ บอสหมอเอก ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมบอสของบริษัท The iCon Group กรณีแอบอ้างตัวเองว่าเป็นแพทย์
โดย พลอากาศเอกนายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ว่าหมอเอกนั้น มีพฤติกรรมคล้ายการเป็นแพทย์ประกอบวิชาชีพตรวจคนไข้หรือรักษาอาการ ทั้งที่จากการตรวจสอบแล้วพบว่าหมอเอกนั้นจบเทคนิคการแพทย์จากสถาบันการศึกษาสถาบันหนึ่ง และไม่ได้จบปริญญาโทกับปริญญาเอก จึงไม่ปรากฏชื่อในทะเบียนการขออนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวอาจจะทำให้สังคมเข้าใจผิดคิดว่าหมอเอกเป็นแพทย์จริง ๆ อีกทั้งยังพบอีกว่าใบประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์หมดอายุกว่า 6 ปีแล้ว วันนี้จึงมาเพื่อดำเนินคดีกับหมอเอกในข้อหาเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525
โดยหลักฐานเป็นคลิปที่หมอเอกได้แสดงตนแอบอ้างว่าเป็นแพทย์ตามที่ปรากฏในออนไลน์ ขณะนี้มีคลิปที่ปรากฏชัดเจนว่าเป็นพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดอย่างน้อย 1 คลิป อย่างไรก็ตามในเครือข่ายบริษัท The iCon Group ยังไม่พบบุคคลอื่นที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายแอบอ้างตัวเองว่าเป็นแพทย์นอกจากหมอเอก
ทั้งนี้ฝากเตือนไปยังกลุ่มแพทย์ขอให้ระมัดระวังในการใช้ภาพลักษณ์ของตัวเองในการสร้างความน่าเชื่อถือต่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพราะนอกจากผิดกฎหมายแล้วยังผิดจรรยาบรรณวิชาชีพอีกด้วย