ติ๊ก ชิโร่ รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทั้งขับรถโดยประมาท และข้อหาเมาแล้วขับ เนื่องจากผลการตรวจเลือดพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หลังแจ้งข้อหาพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว จากนี้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง
15 ตุลาคม 2567 ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพมหานคร ญาติและครอบครัว ได้จัดพิธีฌาปนกิจ ศพ นางสาวเทียรพร ศิวพรพิทักษ์ หรือเมจิ อายุ 28 ปี ที่ถูกนายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือ ติ๊ก ชิโร่ อายุ 63 ปี ศิลปินและนักร้องชื่อดัง ขับรถยนต์ตู้ ยี่ห้อฮุนได สีดำ พุ่งชนขณะ นางสาวเทียนพรฯ ขับขี่จักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีดำ จนให้เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน คือ นายจักรภัคร หรือ จูเนียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 ซึ่งเป็นน้องชายของ นางสาวเทียนพร หลังจากมีพิธีสวดอภิธรรมมา ตั้งแต่วันที่ 12-14 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี “ติ๊ก ชีโร่” พร้อมด้วยภรรยา และนายกรุงศรีวิไล ศิลปินดารานักแสดง-นักการเมือง รวมถึงกลุ่มเพื่อนและครอบครัวน้องเมจิ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
เมื่อ “ติ๊ก ชีโร่” เดินทางมาถึงงาน ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน โดยขณะที่นาย ติ๊กชีโร่นำดอกไม้จันทน์ ไปวางที่บริเวณโรงศพพร้อมพนมมือกราบที่โรงศพ ด้วยมีสีหน้าเรียบเฉย
ขณะที่ นายจิรวัฒน์ พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่า “ติ๊ก ชีโร่” มาร่วมงานศพทุกวัน ตั้งแต่พิธีสวดอภิธรรมศพจนถึงพิธีฌาปนกิจศพ โดยเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ตำรวจ สน.คันนายาว ได้ติดต่อให้ตนให้เข้าไปพบ กับพนักงานสอบสวน แต่ตนไม่สะดวกที่จะเข้าไป
ส่วนนายจักรภัคร อายุ 21 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต ที่ถูกชนจนกระเด็นตกสะพานได้รับบาดเจ็บ ยังคงพักรักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช อาการล่าสุดยังสาหัส ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ตลอดเวลา และงดเยี่ยม ซึ่งก็เพิ่งได้รับการผ่าตัดไป
สำหรับความคืบหน้าทางคดี พันตำรวจเอก นเรนทร์ เครื่องสนุก ผู้กำกับการ สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อวานช่วงบ่าย “ติ๊ก ชิโร่” ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส และข้อหาเมาแล้วขับ เนื่องจากผลการตรวจเลือดพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หลังแจ้งข้อหาพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว จากนี้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป รวมถึงจะมีการนัดให้คู่กรณีมาเจรจาตกลงเรื่องการเยียวยาเรื่องค่าเสียหายต่อไป