ผบ.ตร. เผยเข้าตรวจค้นผู้ต้องหาคดีตากใบ กว่า 29 ครั้ง เฝ้าจุดระวังติดตามกว่า 180 ครั้ง ยันไม่ปล่อยผ่าน สั่งการให้ติดตามตัวอย่างถึงที่สุดภายใต้อายุความ มุ่งเน้นความสำเร็จ ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการเล่นละคร
คดีตากใบ วันนี้ (22 ต.ค. 67) ที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีตากใบ ซึ่งจะหมดอายุความในอีก 3 วัน ว่า เรื่องนี้เชื่อว่าทุกคนทราบดีว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 มีคำพิพากษาจากศาลจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส เรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย แต่หลังจากนั้นมีประชาชนยื่นฟ้องศาลให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา รวมถึงกรณีที่อัยการก็ส่งคดีฟ้องต่อศาล รวมแล้วในคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 14 คน จนนำไปสู่การออกหมายจับในเวลาต่อมา
ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนเดินทางไปที่ตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อสอบถาม และสั่งการให้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับภายในอายุความ พร้อมออกวิทยุราชการกำชับกองบัญชาการ และภูธรจังหวัดติดตามผู้ต้องหาที่มีภูมิลำเนา และถิ่นที่อยู่ โดยการปฎิบัติให้แยกแยะออกเป็น 2 ส่วน คือด้านธุรการ ที่ได้รับหมายจับมา และลงในระบบ Crime รวมถึงมีการสืบจับ และเวียนหนังสือการสืบสวนติดตาม และประสานกับกองการต่างประเทศ เพื่อให้ออกหมายแดง ตามระเบียบปฏิบัติ
อีกส่วนคือการปฏิบัติ ตนได้สั่งการด้วยหนังสือให้ติดตามจับกุม รวม 29 ครั้ง ในการเข้าตรวจค้น และประสานสื่อมวลชนในการเข้าค้น รวมถึงตำรวจต้องมีกล้อง และปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ นอกจากตรวจค้นแล้ว ยังสั่งการให้มีการเฝ้าจุด และติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อระมัดระวังการหลบหนีออกนอกประเทศ กว่า 180 ครั้ง เป็นไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และจับกุมผู้ต้องหาให้ได้ภายในอายุความ
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีเบาะแส ให้แจ้งยังพื้นที่ ตร. พร้อมที่จะจับกุมทันที เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเราได้ทำตามหน้าที่ที่เข้มข้น และจริงจัง ไม่ได้ปล่อยผ่าน ซึ่งจากข้อมูลทราบว่ามีบางคนที่หลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนจะมีการออกหมายจับ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าหลบหนีออกนอกประเทศ และยังเฝ้าติดตามอยู่ทุกวิถีทาง โดยภายในอายุความเรายังสืบสวนติดตามอย่างเข้มข้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากท้ายที่สุดฝ่ายการเมืองมีการแก้กฎหมายเพื่อขยายอายุความคดีตากใบ ตำรวจมีมาตรการในการรองรับการจับกุมผู้ต้องหาอย่างไร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตอนนี้เราอยู่ในอายุความ มุ่งเป้าไปที่การสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาภายในอายุความ ส่วนประเด็นอื่นก็ขอให้ว่าไปในเรื่องกฎหมาย ซึ่งได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ทุกกองบัญชาการอยู่ตลอดว่า ”อย่าได้หยุดติดตาม“ เรามุ่งเน้นความสำเร็จ ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการเล่นละคร ขอเพียงเดินหน้าติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ
เมื่อถามถึงมั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้ก่อนคดีหมดอายุความ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ตอบว่า ”มีความตั้งใจที่จะเอาตัวมาให้ได้“
