เขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มระบายน้ำอีกครั้ง

เขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มระบายน้ำอีกครั้ง

View icon 60
วันที่ 24 ต.ค. 2567 | 09.44 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กระทรวงเกษตรฯ แจ้ง1-7 วันข้างหน้าต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา 1,900 ลบ.ม. /วินาที ด้านสทนช. ประกาศ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่งจนถึง28 ต.ค.

นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่านางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ติดตามสภาพอากาศและการบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด กำชับกรมชลประทานควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ล่าสุดฝนตกต่อเนื่องบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จึงทำให้วันนี้ ( 24 ต.ค.67) ต้องปรับการระบายน้ำเป็น 1,548 ลบ.ม./วินาที โดยใน 1-7 วันข้างหน้าจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นไม่เกิน 1,900 ลบ.ม. /วินาที

โดยรายงานสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา  24 ต.ค.67 เวลา 07.00 น.

สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,820 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 13 ซม. แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 3.36 ม.

สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,548 ลบ.ม/วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น ระดับน้ำท้ายเขื่อนต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 3.34 ม.

การคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C2 จ.นครสวรรค์ ใน 1-7 วันข้างหน้าอยู่ที่ 1,900 ลบ.ม. /วินาที ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 1,900 ลบ.ม. /วินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) มีระดับเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.30 - 0.50 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำและการแจ้งเตือนจากหน่วยงานทางราชการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีฝนในระยะนี้  อาจส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

ด้าน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. สั่งเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง ช่วงวันที่ 23 – 28 ตุลาคม 2567 โดยมีฝนตกหนักบางแห่งต้องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จังหวัดอุทัยธานี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

จึงขอให้เฝ้าระวังฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมทั้งแจ้งเตือนล่วงหน้าให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

เนื่องจากมีปริมาณน้ำสะสมไหลลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ในอัตราที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ กรมชลประทานจึงได้รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ในอัตรา 400 ลบ.ม./วินาที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง