ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ ซีดีซี (CDC) เร่งสอบสวนการระบาดของเชื้ออีโคไล ในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ซึ่งทำให้ประชาชนชาวอเมริกัน รวม 12 รัฐ ล้มป่วยไปเกือบ 50 คนแล้ว และเสียชีวิตไป 1 คน โดยมีผู้ป่วย 10 คน เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล จากอาการแทรกซ้อนร้ายแรง
ขณะที่ โฆษกของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดดังกล่าว เปิดเผยว่า การระบาดของเชื้ออีโคไล ยังจำกัดอยู่แค่ในสหรัฐฯ เท่านั้น โดยทางร้านกำลังเร่งตรวจสอบแหล่งผลิตหัวหอมหั่นฝอย และเนื้อบดของบริษัท ในนครชิคาโก อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อพยายามหาสาเหตุของการปนเปื้อนในอาหาร พร้อมถอดเมนูที่ต้องใส่วัตถุดิบดังกล่าว จำนวน 1 ใน 5 ของร้านอาหารทั้งหมดที่มีอยู่ราว 14,000 แห่งในสหรัฐฯ โดยเฉพาะ สาขาในรัฐโคโลราโด, แคนซัส, ยูทาห์, ไวโอมิง และบางส่วนของรัฐไอดาโฮ, ไอโอวา, มิสซูรี, มอนทานา, เนแบรสกา, เนวาดา, นิวเม็กซิโก และโอคลาโฮมา
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อาจมีการระบาดของเชื้ออีโคไลเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากหัวหอมอาจปนเปื้อนมูลวัวที่มีเชื้อ "อีโคไล" ได้ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เชื้ออีโคไล มีชีวิตอยู่รอดได้นานขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น
