ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 67 เวลา 05.00 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ปัญจพล พวงปัญญา รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพนทอง รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธปืนมีผู้บาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลโพนทอง เหตุที่ปากทางเข้าบ้านโนนคำ หมู่ที่ 15 ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายจิรวัฒน์ อายุ 18 ปี ถูกยิงบริเวณราวนมขวา และแขนขวา
ต่อมาเวลา พ.ต.อ.เกียรติปกรณ์ รวมวงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพนทอง สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 6 พ.ย. 67 เป็นเยาวชนชาย คือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และจับกุม ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ สีแดง ไม่ติดเป็นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน และอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ที่คนร้ายนำไปซุกซ่อนไว้ที่ข้างโรงเรียนบ้านโนนคำ ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด
จากการสอบสวนเยาวชนชาย อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า หลังจากเมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 5 พ.ย.67 พวกตนมาชมมหรสพหมอลำ ซึ่งทำการแสดงฉลองสมโภชน์งานมหากฐิน ที่ บ.โนนแก้ว ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ก็ได้พบกับกลุ่มของผู้เสียชีวิต จึงเกิดเขม่นกัน กระทั่งหมอลำเลิกทำการแสดงเวลาประมาณ 04.30 น. วันที่ 6 พ.ย.67 กลุ่มผู้เสียชีวิตและกลุ่มของตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบริเวณงาน ห่างจากบ้านงานประมาณ 700 เมตร
โดยกลุ่มผู้เสียชีวิตขับออกหน้า จากนั้นตนได้บอกให้เพื่อนที่เป็นคนขี่ไล่ตามอย่างกระชั้นชิด แล้วขับแซงขึ้นหน้าไป จากนั้นตนซึ่งนั่งซ้อนท้ายก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 1 นัด ที่มีเพื่อนของผู้เสียชีวิตอายุ 16 ปี เป็นคนขี่ ส่วนผู้เสียชีวิตนั่งซ้อนท้าย หลังจากก่อเหตุแล้วตนนำอาวุธปืนไปซ่อนไว้ที่ข้างโรงเรียนบ้านโนนคำ กระทั่งก็มาถูกเจ้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมก่อเหตุ ส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมกับตั้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่, พาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนและโดยไม่มีเหตุอันสมควร และ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง” เพื่อดำเนินคดีต่อไป