คนคลั่งไสยศาสตร์ลักตะแกรงเผาผีไปทำเครื่องรางของขลัง

คนคลั่งไสยศาสตร์ลักตะแกรงเผาผีไปทำเครื่องรางของขลัง

View icon 103
วันที่ 12 พ.ย. 2567 | 17.11 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กลุ่มคนคลั่งคุณไสย ก่อเหตุลักตะแกรงเหล็กเผาผี ในเมรุที่วัดแห่งหนึ่ง ที่อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ชาวบ้านเชื่อนำไปทำเครื่องรางของขลัง ตามความเชื่อของคนเล่นของ

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ บูรณ์พิภพน์ อินทศร ได้โพสต์ภาพเตาเผาศพ เมรุฌาปนสถาน วัดสว่างบัวระพา ม.2 บ.เหล่าเชียงสม ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ลงในเพจข่าวกุมภวาปี พร้อมระบุว่า “ระวังขโมยได้ทุกอย่าง ตัวกลางของเมรุเผาศพ” ก่อนจะมีคนแสดงความคิดเห็น เช่น คงมีใบสั่งให้หัวขโมยมาลักตระแกรงเหล็กเผาผีไปขาย เพื่อทำเครื่องรางของขลัง ,น่าจะเป็นหัวขโมยขี้ยามาลักเอาไปขายร้านรับซื้อของเก่า ซื้อยาบ้าเสพ เนื่องจากช่วงนี้เหล็กมีราคาแพง

ล่าสุดวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปจุดเกิดเหตุ อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร พบนายบูรณ์พิภพ อินทศร อายุ 52 ปี ผญบ.ม.2 บ.เหล่าเชียงสม และนายคำพันธ์ จำปางาม อายุ 65 ปี สัปเหร่อวัดสว่างบัวระพา พาตรวจสอบเมรุ เมื่อเปิดเตาเผาศพพบว่า ตะแกรงเหล็กในเตาเผาศพ กว้าง 30 ซม. ยาว 1.20 เมตร ที่ทำมาจากเหล็กหล่อ น้ำหนักประมาณ 30-40 กิโลกรัม หายไป

นายคำพันธ์ เผยว่า เช้าวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ตนมาทำความสะอาดเตรียมเผาศพคนในหมู่บ้าน แต่พอเปิดประตูเตาออก พบว่าเหล็กตะแกรงเผาศพหายไป จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และพากันไปยืมตะแกรงเหล็กเผาศพที่วัดอื่นมาใช้ชั่วคราว ซึ่งตั้งแต่เป็นสัปเหร่อมากว่า 20 ปี ไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ตนเชื่อว่าน่าคนร้ายน่าจะขโมยไปทำเครื่องรางของขลัง เพราะเหล็กขาตั้งโรงศพ ที่วางอยู่ข้างเตาเผาศพด้านนอกอีก 2 อัน กลับไม่ถูกขโมย จึงมั่นใจว่ามีใบสั่งให้โจรมาขโมยไปขาย หรือรับซื้อไปทำเครื่องรางของขลัง และคุณไสย ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล เพราะเหล็กตะแกรงผ่านการเผาศพจำนวนมาก

นายบูรณ์พิภพ เผยว่า หลังจากตะแกรงเหล็กเผาศพในเมรุหายไป ตนจึงโพสต์เตือนภัย ให้หมู่บ้านต่าง ๆ ในพื้นที่ เพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะหมู่บ้านที่มีเมรุเผาศพนอก คาดว่าคนร้ายเป็นพวกขี้ยา เคยเห็นแต่ในข่าวทางอีสานใต้ ไม่คิดว่าจะมาเจอกับหมู่บ้านของตัวเอง ซึ่งเมรุเผาศพแห่งนี้สร้างมา 3 ปี เผาทั้งศพตายโหง และป่วยตายมาแล้วเกือบ 20 ศพ จึงฝากถึงโจรอย่ามาหาสร้างความเดือดร้อนในหมู่บ้าน เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายของทุกคน มันเป็นบาปกรรมหนัก ไม่วันใดก็วันหนึ่งเวรกรรมต้องตามทันแน่นอน และอยากให้ตำรวจช่วยติดตามโจรให้ได้โดยเร็ว 

หลังจากนั้นผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นพดล ขันตีกุล สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี ก่อนเข้าให้ข้อมูลกับ ร.ต.อ.รังสิมันต์ ภูเนตร รอง สว.สส.สภ.กุมภวาปี เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง