ห้องข่าวภาคเที่ยง - เคราะห์ซ้ำกรรมซัด "ทนายตั้ม" ถูกสอบสวนคุณสมบัติสมัครสมาชิกวุฒิสภา ปมประกอบอาชีพทำงานเพื่อประชาชนไม่ครบ 10 ปี หลังขอขยายเวลาการสอบสวนมาแล้วหลายครั้ง หากผิดจริงเสี่ยงโทษจำคุก 1-10 ปี
นายนิติพัฒน์ ชูกล้ากสิกรณ์ ประธานสืบสวนและไต่สวน กกต. จังหวัดสมุทรสาคร เข้าสอบปากคำและสอบถามข้อเท็จจริง นายษิทธา เบี้ยบังเกิด ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งติดอันดับสำรอง แต่ขณะนี้ถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกเงินจำนวน 71 ล้านบาท และเงิน 39 ล้านบาท ของ "มาดามอ้อย" ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
นายนิติพัฒน์ บอกว่า ที่มาวันนี้เพราะต้องให้ทนายตั้มเป็นผู้ชี้แจง กรณีมีคนร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติการสมัครสมาชิกวุฒิสภา ช่วงปลายเดือนกันยายน จากนั้น กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่อยมา โดยมีตนเองเป็นประธานฯ จนมาถึงขั้นตอนการเรียกให้ทนายตั้มเข้าชี้แจง แต่ทนายตั้มขอเลื่อนการชี้แจง เป็นวันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งส่วนตัวมองว่าเกินกรอบเวลาที่ตั้งไว้ จึงขยายกรอบการไต่สวนเรื่องนี้
หากผลการพิจารณาพบว่า ทนายตั้มขาดคุณสมบัติตามที่ถูกร้องเรียน ก็จะถูกถอดถอนชื่อจากการเป็นตัวสำรองสมาชิกวุฒิสภาทันที แล้วจะถูกดำเนินคดีในข้อหา "รู้ว่าไม่มีคุณสมบัติแล้วมาสมัคร" มีโทษจำคุก 1-10 ปี
นายนิติพัฒน์ยังบอกอีกว่า กรอบการพิจารณา อาจต้องมีการขยายออกไปอีก 1 ครั้ง เพราะติดปัญหาเรื่องผู้สมัครถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำ ส่วนคดียักยอกเงินของมาดามอ้อย นายนิติพัฒน์มองว่า คดีความยังไม่สิ้นสุด และยังไม่ถึงขั้นที่จะถอดถอนชื่อทนายตั้ม ออกจากเป็นตัวสำรองสมาชิกวุฒิสภาในขณะนี้
ส่วน นายนุวัฒน์ หรือ "นุ" และ นางสาวสารินี หรือ "สา" คนสนิทของทนายตั้ม ตำรวจได้คุมตัวไปขอศาลฯ ฝากขังแล้วใน 3 ข้อหา พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยทั้ง 2 คน เดินไปขึ้นรถด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปฏิเสธที่จะตอบคำถามของสื่อมวลชน
รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การไม่ค่อยเป็นประโยชน์เท่าใดนัก ตำรวจได้พยายามสอบปากคำในทุก ๆ ประเด็น แต่ตัวผู้ต้องหาเองก็ให้การไปตามสิทธิ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนกรณีแจ้งข้อหาเพิ่มกับทนายตั้ม ต้องใช้เวลาอีกสักพัก ยังไม่ใช่วันนี้ เพราะการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่เสร็จสิ้น
