ห้องข่าวภาคเที่ยง - นายก อบต. จังหวัดระยอง เรียกรับเงินชนะการประมูลโครงการก่อสร้างถนน ตำบลสำนักทอง ที่ถูกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ร่วมกับ บก.ปปป. จับกุม ยังปากแข็ง ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
คดีนี้มีผู้เสียหายให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า นายก อบต. สำนักทอง เรียกรับเงินสด จำนวน 13 % ของราคาที่ชนะประมูล เป็นเงิน 100,000 บาท แลกกับเช็คที่ผู้เสียหายชนะการประมูลโครงการก่อสร้างถนน โดย นายก อบต. อ้างว่า ถ้าไม่นำเงินสดมาให้ก็จะไม่เซ็นส่งมอบเช็คให้ ทำให้ผู้เสียหายต้องเตรียมเงินสดมามอบให้ นายก อบต. ก่อนไปเข้าแจ้งความกับตำรวจเพราะการกระทำนี้เข้าข่ายการทุจริต ต่อมาตำรวจจึงวางแผนจับกุมตัว นายก อบต. ขณะลูกชายขับรถมาส่ง พบอาวุธปืน 2 กระบอก กระสุนปืน 31 นัด เงินสดจำนวน 90,000 บาท รวมทั้งสมุดธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา คือ 1. เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินสำหรับตนเองหรือผู้อื่น 2. ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต 3. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และ 4. เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับทรัพย์สิน
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยผลการสอบปากคำ นายก อบต. ว่ายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และวันนี้ตำรวจจะนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ฝากขัง วันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ขณะเดียวกันก็จะขยายผลต่อ เพราะต้องสงสัยว่า นายก อบต. คนนี้ อาจเป็นผู้มีอิทธิพล เนื่องจากอยู่ในตำแหน่ง นายก อบต. มานานกว่า 16 ปี ส่วนลูกชายที่ถูกจับกุมก็มีตำแหน่งเป็น กำนัน ต้องดูว่าจะมีพฤติกรรมเรียกรับสินบนอื่นอีกหรือไม่
ส่วนกรณีมีผู้ตั้งคำถามว่า ทำไมผู้เสียหายไม่ถูกดำเนินคดีไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ก็น่าจะรู้เห็นกับผู้ต้องหา นั่นเพราะได้สอบปากคำผู้เสียหายแล้ว พบข้อเท็จจริงว่า ทันทีที่ผู้เสียหายชนะการประมูล ผู้ต้องหาก็รีบเรียกเข้าไปคุยเพื่อเรียกรับเงินในทันที จึงเชื่อได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเป็นใจ หรือ มีการเสนอเงินก่อนลงประมูล