นิพิฏฐ์ เหน็บนักการเมือง จำเป็นต้องทำชั่ว เพราะต้องการนำเงินมาทำดีเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ทนายความ อาจชั่วกว่านักการเมืองเสียอีก
วันนี้ (19 พ.ย.67) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงอาชีพนักการเมือง โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า ตนเป็นเพียงคน ๆ หนึ่งคนที่เดินแทรกตัวอยู่ท่ามกลางคน 66,052,615 คน (โดยประมาณ) ในประเทศนี้ แทรกตัวอยู่ท่ามกลางคนจนมากกว่าคนรวย แทรกตัวอยู่ท่ามกลางคนที่แบกทุกข์ มากกว่าคนที่แบกความสุขอยู่เต็ม 2 บ่า
“ความจริงผมก็เคยแบกทุกข์ของคน 66,052,615 คนมาก่อน แต่บัดนี้ผมวางลงแล้ว บ่าของผมจึงไม่แบกของหนักอีกต่อไป”
นายนิพิฏฐ์ ระบุว่า มีคำกล่าวว่า คนที่สามารถทำความดีได้มากที่สุด คือ นักการเมือง หากคุณไม่เชื่อ คุณก็ไปดูจำนวนของนักการเมือง ทั้งระดับชาติและท้องถิ่น กับจำนวนของนักบวชผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ซึ่งมีจำนวนใกล้เคียงกันอย่างน่าอัศจรรย์ และมีคำกล่าวต่อไปว่า หากจะหาคนที่ทำชั่วได้มากที่สุด ก็ให้หาจากคนที่อยู่ในกลุ่มนักการเมืองนี่ล่ะ ทำไมเขาจึงทำชั่วมากที่สุด เขาจำเป็นต้องทำชั่ว เพราะเขาต้องใช้เงินมาทำความดีเพื่อช่วยเหลือประชาชน
“เวลาเลือกตั้งคุณก็เต็มใจรับเงินจากเขามิใช่หรือ ทั้งที่ขณะเขายื่นเงินให้คุณ คุณก็บอกเขาว่า “แม้ไม่ให้คุณก็จะเลือกเขาอยู่แล้ว” ญาติคุณตายก็เห็นพวงหรีดเขามาวางเป็นพวงแรกมิใช่หรือ ลูกบวช แม่ยายตายถ้าเขาโผล่หน้ามาในงาน คุณจะรู้สึกเขื่องขึ้นมาทันที พูดกับเพื่อนบ้านว่า ยังไม่ได้บอกงานเลยเขารู้เขาก็มาเอง”
นายนิพิฏฐ์ ระบุด้วยว่า ขณะผมนั่งดื่มกาแฟเช้านี้ ลมตะวันออกเริ่มพัดมาแล้ว อีกไม่นานจะถึงหน้าฝนในภาคใต้ น้ำเริ่มไหลบ่าผ่านหน้าบ้านคุณเมื่อไหร่ หัวคะแนนของนักการเมืองก็จะเอาข้าวสารและปลากระป๋อง 2 กระป๋องใส่ถุงมาให้ พร้อมชื่อของเขาตัวใหญ่ใส่มาในถุง จน ปิดบังเกือบไม่เห็นข้าวสารและปลากระป๋องที่จมอยู่ในข้าวสาร มีข้อความว่า ด้วยความรักและความห่วงใย
“ช่วงกฐินที่ผ่านมาคุณไปดูเฟซบุุ๊กของนักการเมือง เขาลงภาพไปงานกฐินกี่งาน มากกว่าคุณเยอะเลย เขาคงได้บุญเยอะกว่า แต่นั่นล่ะ มันน่าน้อยใจที่คุณไม่เคยคิดเลยว่า เงินใส่ซองทอดกฐินเขาเอามาจากไหน”
อย่างไรก็ตาม ความดีที่เขาทำ บางคนกลับมองว่าเป็นความชั่ว ถึงขนาดต้องตั้งศาลพิเศษ ขึ้นมาพิจารณาความผิดของคนกลุ่มนี้ที่เรียกง่าย ๆ ว่า ศาลอาญาทุจริตของนักการเมือง เพื่อนผมจำนวนมากเข้าไปพำนักอยู่ในเรือนจำด้วยอำนาจของศาลนี้ แต่ ผมไม่เคยตำหนินักการเมืองที่ตั้งใจทำความดีตามหน้าที่ของตน จึงไม่เคยเห็นผมตำหนินักการเมืองที่นั่งหลับในสภา ผมไม่เคยตำหนินักการเมืองที่อ่านตัวเลขผิด ๆ ในสภา เพราะถือว่าผิดถูกอย่างไรเขาก็ได้พยายามทำความดีตามหน้าที่แล้ว
นายนิพิฏฐ์ ระบุทิ้งท้ายว่า มีคนอีกประเภทหนึ่ง ที่ทำความชั่วและทำความดีได้ใกล้เคียงกับนักการเมือง คนพวกนี้ เรียกว่า“ทนายความ” ส่วนตัวคิดว่าคนพวกนี้อาจชั่วกว่านักการเมืองเสียอีก ซึ่งตนอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้ เพื่อความเป็นธรรม ต่อไปก็จะเขียนถึงคนกลุ่มนี้