ห้องข่าวภาคเที่ยง - โต้เถียงกันดุเดือดในสำนักสงฆ์เลย พระกับแม่ชีเถียงกันเสียงดัง หลังแม่ชีไม่ยอมจ่ายค่าไฟ เก็บค่าไฟไม่ได้ งานนี้รุนแรงถึงขั้นชักปลั๊กตู้เย็น และเก็บเครื่องซักผ้าออก ไม่ให้ใช้แล้ว
พระทวงเงินค่าน้ำค่าไฟจากแม่ชี แม่ชีไม่ยอมจ่าย เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้อง ระแวงกันเลยมีปากเสียงกันอย่างหนักกลางดึก เหตุเกิดในสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในบ้านท่ามะปราง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีพระอยู่ 3 รูป เณร 2 รูป และมีแม่ชีอยู่อีก 7 คน
เรื่องไม่จบ เช้ามาก็มีปากเสียงกันอีกรอบในช่วงเช้า และได้มีการรื้อค้นสิ่งของในตู้เย็นออกหมด และเครื่องซักผ้าเพื่อไม่ให้แม่ชีใช้แล้วปัญหาเกิดเรื้อรังมา 2 ปีแล้ว ครั้งนี้หนักที่สุดและมีปากเสียงกันรุนแรง
แม่ชี เล่าว่า คืนเกิดเหตุ แม่ชีกำลังกลับจากศาลาสวดมนต์ ระหว่างทางเจอพระรูปนี้ก็เดินมาทวงเงินค่าไฟ พระรูปนี้ก็ยังทวงเงินผ้าป่าที่ชาวบ้านมาทำหมื่นกว่าบาท แม่ชีบอกไปไม่มีใครมาทำ พระก็ไม่เชื่อตน ต่อมาพระรูปนี้ก็ต่อว่าโต้เถียงกัน
ส่วนสาเหตุที่ไม่ให้เงินค่าไฟ เพราะว่าพฤติกรรมพระรูปนี้ไม่น่าไว้ใจเรื่องเงิน หลังจากนั้นช่วงเช้าอีกวันพระรูปนี้ก็ไม่พอใจที่ไม่ได้เงินค่าไฟก็มาทำรื้อของในตู้เย็นออกหมด และเข็นตู้เย็นคืนไป และรื้อเครื่องซักผ้าเพื่อไม่ให้พวกแม่ชีใช้อีกด้วย แต่ของพวกนี้คือของที่ญาติโยมนำมาถวายวัด
ปัญหาที่เกิดขึ้น แม่ชีไปแจ้งเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านแล้ว แต่เรื่องเงียบ แม่ชีสุดจะทนแล้ว
กรณีเงินทำบุญเข้าวัด ใครต้องบริหารจัดการ ทีมข่าวสอบถามไปยังนายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า การดูแลบริหารจัดการเงินภายในวัด โดยหลักแล้วเจ้าอาวาสจะเป็นผู้สั่งการ มอบหมายหน้าที่การดูแลเงินจับจ่ายใช้สอย ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้กับไวยาวัจกรของวัด
แต่หากไม่มีไวยาวัจกร เจ้าอาวาสสามารถมอบหมายพระหรือชี ช่วยดำเนินการแทนได้ตามคำสั่ง ส่วนพระหรือชีรูปอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีสิทธิไปยุ่งเกี่ยวกับเงินเด็ดขาด
ปัจจุบัน นับเป็นการยืดหยุ่นให้พระหรือชีสามารถถือเงินได้ เนื่องจากความจำเป็นในการบริหารจัดการปัจจัย 4 แต่ก็ต้องอยู่ในความเหมาะสม
สำหรับกรณีพระและชีที่จังหวัดนครราชสีมา ต้องให้เจ้าอาวาสสืบสวนข้อเท็จจริง แล้วเข้าสู่กระบวนการสอบพระธรรมวินัยโดยพระชั้นผู้ใหญ่ต่อไป