นายกฯ ควงสามี-ลูก ร่วมทริป ครม.สัญจร

View icon 33
วันที่ 29 พ.ย. 2567 | 16.41 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คนพิการ และผู้สูงอายุ เตรียมเฮรับเบี้ยยังชีพเพิ่ม หลังจากที่ประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดเชียงใหม่ รับทราบข้อเสนอปรับเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ จากเดิม 600-1,000 บาท เป็น 700-1,250 บาท พร้อมปรับเบี้ยคนพิการเป็น 1,000 บาท โดยก่อนการประชุม ครม.ในวันนี้ นายกฯได้เดินทางมาพร้อมกับสามี และลูกทั้ง 2 คน

นายกฯ ควงสามี-ลูก ร่วมทริป ครม.สัญจร
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำ ครม.สวมเสื้อผ้าฝ้ายทอมือสีชมพูบานเย็น ปักลายพระราชทาน "ลายสิริวชิราภรณ์" และ "ลายดอกรักราชกัญญา"

โดยนายกฯ เดินทางมาพร้อมกับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ที่อุ้ม เด็กชายพฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ลูกชาย ขณะที่นายกฯจูง เด็กหญิงธิธาร สุขสวัสดิ์ ลูกสาว เดินชมนิทรรศการสินค้าพื้นเมือง ผ้าไทย กาแฟ จากกลุ่มโอท็อปวิถีชุมชน ระหว่างชมบูธกาแฟเทพเสด็จ ซึ่งนำผลิตภัณฑ์กาแฟและส้มสายน้ำผึ้ง จากไร่ธนาธรมาจัดแสดง นายกฯได้หยิบส้มแจกให้นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และแซวว่า รัฐมนตรีหิวแล้ว พร้อมถามด้วยว่า "มีส้มธนาธร แล้วมีส้มปิยบุตรไหม"

ระหว่างชมกิจกรรมนายกฯได้อุดหนุนผ้าไทย และสินค้าท้องถิ่น เพื่อเป็นกำลังใจกับผู้ผลิตสินค้าโอท็อปเป็นจำนวนมาก และชมการแสดงของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยมีนักศึกษามามอบดอกกุหลาบเป็นกำลังใจให้กับนายกฯ โดยนายกฯได้ร่วมถ่ายรูปทำท่ามินิฮาร์ท กับนักศึกษาด้วย ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี

นายกฯ ขออย่าก่อม็อบ หวั่นกระทบท่องเที่ยว
หลังการประชุม ครม. นางสาวแพทองธาร แถลงว่า วันนี้เป็นการประชุม ครม.สัญจร ครั้งแรก ที่มา จังหวัดเชียงใหม่ และจะลงพื้นที่ จังหวัดเชียงราย ต่อ จึงถือโอกาสติดตามเรื่องอุทกภัยและการเยียวยาที่จะดูแลประชาชน ยืนยันว่า ทั้ง จังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายสามารถท่องเที่ยวได้แล้ว เพราะน้ำท่วมจบเรียบร้อยแล้ว เมืองพร้อมเที่ยว

เมื่อถามถึงกรณี นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจัดการชุมนุมครั้งสุดท้ายในชีวิต นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เราต้องรักษาความสงบในประเทศให้ได้มากที่สุด เพราะหากไปประเทศไหนแล้วมีม็อบอาจไม่อยากไป ซึ่งประเด็นนี้จะกระทบกับการท่องเที่ยวและประเทศอย่างแน่นอน แต่หากประชาชนมีข้อเรียกร้องหรืออยากจะเสนอรัฐบาลก็มีกระบวนการรับฟังเสียงของประชาชนอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่มีเสียงคัดค้าน ขอให้รัฐบาลไทย ยกเลิกเอ็มโอยู 44 นั้น นายกฯ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วสามารถยกเลิกได้ตามหลักของกฎหมาย แต่ถามว่า เราควรยกเลิกฝ่ายเดียวหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ดังนั้นคงต้องมีการคุยกันก่อนระหว่างสองประเทศ และพยายามไม่ให้คนในประเทศเข้าใจผิด พร้อมยืนยันว่า พื้นที่ที่คุยกันยังคงเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ทั้งไทยและกัมพูชายังไม่มีใครเสียผลประโยชน์ในตอนนี้ เพราะต้องคุยกันก่อน ขอให้มั่นใจว่า ตนเกิดในแผ่นดินนี้ไม่มีทางที่จะเห็นที่ไหนดีกว่าบ้านเรา

เตรียมเฮ! จ่อเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ-ผู้พิการ
หลังการประชุม ครม.สัญจร นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.สัญจรว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบข้อเสนอ เรื่องการพัฒนาหลักประกันบริการทางสังคมแก่กลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ตามที่คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติเสนอ โดยกลุ่มผู้สูงอายุ ปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จากเดิมอายุ 60-69 ปี เดือนละ 600 บาท เป็น 700 บาท อายุ 70-79 ปี เดิมเดือนละ 700 เป็น 850 บาท อายุ 80-89 ปี จากเดิมเดือนละ 800 บาท เป็น 1,000 บาท และ อายุ 90 ปีขึ้นไป จากเดือนละ 1,000 บาท เป็นเดือนละ 1,250 บาท พร้อมปรับเบี้ยคนพิการ จากเดิมได้รับเดือนละ 800-1,000 บาท เป็น 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า

ส่วนเรื่องเงินอุดหนุนเด็กและเยาวชนอายุ 0-6 ปี ในครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เดิมได้รับในอัตราเดือนละ 600 บาท ปรับเป็นให้เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้าโดยไม่ต้องมีการกรองรายได้ และขยายอายุของเด็กให้ครอบคลุมตั้งแต่ในครรภ์ 4 เดือน โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการ โดยให้คำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่า และให้นำกลับเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง

ครม.ต่ออายุรถไฟฟ้าสายสีแดง-สีม่วง 20 บาทตลอดสาย
นายจิรายุ เปิดเผยอีกว่า ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล สำหรับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์-ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 67 - 30 พ.ย 68 โดยประมาณการว่า มีการสูญเสียรายได้ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง 35.35 ล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีม่วง 272.99 ล้านบาท ส่วนแหล่งที่มาของเงินชดเชยค่าโดยสาร รฟท. จะเสนอขอรับจัดสรรงบฯ เพื่อชดเชยต่อไป ส่วน รฟม. จะนำเงินรายได้ที่ต้องส่งคลังมาชดเชย

แจกเงินหมื่น-ช่วยชาวนาไร่ละพัน ยังไม่เข้า ครม.
ส่วนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่เกิน 4 ล้านคน โดยใช้เงินงบประมาณ 40,000 ล้านบาท และโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตชาวนาปีการผลิต 2567/68 ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท ยังไม่มีการนำเข้าสู่การประชุมครม.ครั้งนี้ เพราะทั้งสองโครงการยังติดขั้นตอนการเสนอขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะต้องเซ็นชื่อประกอบความเห็นก่อนที่จะนำเสนอ ครม.ด้วย จึงคาดว่า น่าจะเสนอเข้าสู่การประชุม ครม.อีกครั้งในการประชุมครั้งหน้า วันที่ 3 ธันวาคม นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง