รายงานพิเศษ : มหากาพย์คดีรถหรู รอวันสิ้นสุด เรียกคืนภาษีหมื่นล้านบาท

View icon 90
วันที่ 4 ธ.ค. 2567 | 07.05 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - 10 ปี คดีรถหรูสำแดงเท็จ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ เกิดคำถามมากมาย เงินที่รัฐสูญไปเกือบหมื่นล้านบาทจะเรียกคืนได้หรือไม่ ทีมข่าว 7HD ที่เกาะติดคดีนี้มาตลอด ได้คำตอบชัด ได้เงินคืนแน่ และจะได้มากกว่าที่รัฐเสียไปด้วย ลงสนามข่าวกับคุณณัฐดนัย ใหม่ซ้อน

ปิดฉากอวสานนำเข้ารถจดประกอบในไทยมาแล้วกว่า 10 ปี นับจากปี 2556 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กวาดล้างขบวนการนำเข้าชิ้นส่วนรถมาจดประกอบกลายร่างเป็นรถหรู แต่สำหรับคดีรถหรูสำแดงเท็จ จนถึงวันนี้ คดีคืบหน้าไปช้ามาก

แม้ตลอดทางการสอบสวนจะพบเรื่องผลประโยชน์ชุกไว้ใต้พรมมากมาย ทำให้รัฐเสียประโยชน์จากภาษีที่ควรจะได้รับกว่า 9,800 ล้านบาท แต่ความหวังที่จะฝากไว้กับการทำงานของดีเอสไอ ดูเหมือนจะริบหรี่ เพราะตัวเลขรถหรู 21 ยี่ห้อ 1,410 คัน ที่พบการสำแดงเท็จใน 395 สำนวนคดี ปรากฎว่าผ่านมา 10 ปี มีคดีแล้วเสร็จเพียง 339 คดี เหลืออีก 56 คดี ที่ยังไม่แล้วเสร็จ เท่ากับว่า ดีเอสไอทำคดีแล้วเสร็จ เฉลี่ยปีละ 34 คดีเท่านั้น

ความล่าช้าที่เกิดขึ้น ความเสียหายที่รัฐสูญเสียภาษีอากรมากเฉียด 1 หมื่นล้านบาท ย่อมถูกมองว่ามีเทวดาระดับบิ๊กมากบารมีอยู่เบื้องหลัง เปิดทางให้ฉ้ออากร เรื่องนี้ ดีเอสไอแก้ต่าง ทุกองค์กรย่อมมีคนดีและคนไม่ดี แต่ทวยเทพเทวดาที่ลือกันไปนั้น ยืนยันไม่มีแน่

เรื่องความล่าช้าของคดี ดีเอสไอ บอกว่าเกิดขึ้นได้ เพราะต้องทำให้ละเอียด และมีประสิทธิภาพ

แต่การทำคดีที่ล่าช้า ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้เงินภาษีหลุดมือไป ตรงกันข้ามกลับมั่นใจได้เงินภาษีหมื่นล้านบาทคืนอย่างแน่นอน และเมื่อคดีสิ้นสุด ยอดเงินที่ได้คืนจะมากกว่าภาษีที่รัฐเสียไปด้วยซ้ำ

โดยจากข้อมูลพบว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นยี่ห้อที่มีจำนวนสำแดงเท็จมากที่สุด 629 คัน แต่หากคิดจากมูลค่าภาษีอากรรวมขาดแล้ว กลับพบว่า ลัมบอร์กีนี ถูกฉ้ออากรมากที่สุด กว่า 5,600 ล้านบาท ส่วนรถหรูที่พบการสำแดงเท็จต่ำกว่า 10 คัน มีเพียง 8 ยี่ห้อเท่านั้น

และที่ผ่านมา คดีทางแพ่ง ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว 9 คดี โดยคดีล่าสุดที่เพิ่งตัดสิน คือกรณีรถหรูที่ถูกไฟไหม้ในจังหวัดนครราชสีมา ศาลอาญามีคำพิพากษาออกมาแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ลงโทษจำคุกผู้กระทำผิดสูงถึง 10 ปี พร้อมลงโทษปรับสูงถึง 80 ล้านบาท และริบรถยนต์ของกลาง 6 คัน ตกเป็นของแผ่นดิน

ส่วนกรณีที่ผู้บริโภคซื้อรถหรูมาโดยสุจริต ดีเอสไอแนะนำว่าต้องชี้แจงให้ได้ว่าตนเองเป็นบุคคลที่สาม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้า และมองว่าปัจจุบันคนมีฐานะหรืออยากจะมีฐานะ ยังนิยมรถหรูเพื่อเอื้อธุรกิจ บางคนใช้หลอกล่อคนโลภให้ตกหลุมพราง

มหากาพย์รถหรูนำเข้าสำแดงเท็จยังต้องเกาะติดกันไปยาว ๆ เพราะทุกคดีศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด แต่อย่าหวังว่า จะช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม เพราะยิ่งนานเท่าไหร่ รัฐก็ยิ่งเสียโอกาสเรียกคืนภาษีมากขึ้นเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง