ไร่ภูนับดาว แจงยิบไม่ใช่รีสอร์ต ไม่เกี่ยวข้องกับหวานใจรองนายกฯ ตั้งบนที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ถูกต้อง จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อกิจการโคนม ด้านนายก อบต.หนองย่างเสือ เผยจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ฯ ผ่านมติสภา อบต.
วันนี้ (4 ธ.ค. 67) ทีมข่าว CH7HD ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี หลังปรากฎข่าวรุกที่ดิน ส.ป.ก.4-01 และมีส่วนเกี่ยวข้องกับ นางสาว ช. หวานใจบิ๊กการเมือง โดยผู้จัดการของศูนย์การเรียนรู้ฯ ปฏิเสธให้ข้อมูล อ้างว่าไม่มีอำนาจ แต่ขอยืนยันว่า ศูนย์การเรียนรู้ฯ ตั้งขึ้นอย่างถูกกฎหมาย และระบุว่า ข้อมูลที่สื่อมวลชนนำเสนอนั้น เป็นการบิดเบือน
ไร่ภูนับดาว ออกแถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาวและหวานใจของอดีตรองนายกรัฐมนตรี และเส้นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท เอี่ยวไร่ภูนับดาวนั้น ศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1.ที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว นั้น ตั้งอยู่บนเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และผู้ใช้ประโยชน์ในที่ดิน ล้วนเป็นเกษตรกรทั้งสิ้น
2.ไร่ภูนับดาว ได้ดำเนินการขออนุญาตเพื่อใช้ที่ดิน ในกิจการที่เกี่ยวเนื่องเกษตรกรรมตามกรอบของกฎหมาย โดยมีการขออนุญาตจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว และได้รับอนุญาตพร้อมทำสัญญาเช่ากับสำนักงานปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) จังหวัดสระบุรี ถูกต้องตามกฎหมาย ณ วันที่ 11 กันยายน 2567 เนื้อที่ 3 ไร่เศษ โดยไดรับสิทธิ์การเช่าเป็นเกษตรกร
3.ไร่ภูนับดาว เป็นฟาร์มโคนมของเกษตรกร มีแม่โคมากกว่า 400 แม่ และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ตลอดจนสวนผลไม้เพื่อแปรรูป
4.ไร่ภูนับดาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ นางสาว ช. หวานใจของอดีตรองนายกรัฐมนตรี และไม่มีบุคคลใดรู้จักกับ นางสาว ช. และไม่มีเส้นทางการเงินใดที่เกี่ยวข้อง ตามที่ปรากฎเป็นข่าวใด ๆ เลย
5.การจัดทำพื้นที่ให้สวยงามก็เพื่อจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเชิงเกษตรมาซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมวัวและผลไม้ทางไร่
6.ไร่ภูนับดาวได้จัดทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้อาชีพการเลี้ยงโคนม และการแปรรูปจากนมวัว เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำนมดิบ ซึ่งชาวมวกเหล็กยึดถือเป็นอาชีพการเลี้ยงโคนม จากรุ่นพ่อแม่ สู่รุ่นลูกหลาน เพราะการเลี้ยงโคนมเพื่อหวังน้ำนมดิบอย่างเดียว ทำให้เกษตรกรมีภาระหนี้สินล้นพ้นตัว ทำให้ต้องขายฟาร์ม และเลิกการเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพในที่สุด
ศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว ยืนหยัดที่จะสืบสาน ต่อยอด อาชีพการเลี้ยงโคนม ซึ่งกำลังจะสูญหายจากประเทศไทย ให้เป็นอาชีพที่น่าภูมิใจของเกษตรกรไทยต่อไปชั่วลูกสืบหลาน
ศูนย์การเรียนรู้ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับผู้ที่ไม่หวังดี นับภาพหรือข้อมูลอันไม่เป็นความจริงไปตัดต่อ อาทิ การนำภาพของรีสอร์ตที่อื่น มากล่าวรวมกับไร่ภูนับดาว เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่า ไร่ภูนับดาวเป็นรีสอร์ต ทำให้เกิดความเสียหายกับศูนย์การเรียนรู้ เกษตรกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว และก่อให้เกิดผลกระทบกับรายได้ที่จะนำมาเลี้ยงโคนม และพนักงาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิ อาหารสัตว์ และปุ๋ย
ด้านนายวุฒิพงศ์ หมวดมหิงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองย่างเสือ กล่าวยืนยันกับทีมข่าว CH7HD ว่า ศูนย์การเรียนรู้ เกษตรกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว ขออนุญาต อบต.หนองย่างเสือ จัดตั้งเมื่อปี 2567 โดยผ่านมติสภา อบต.หนองย่างเสือ และที่ผ่านมา มีการเสียภาษีให้ท้องถิ่น จากอาชีพเลี้ยงโคนม ตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการขอเอกสารมติสภา อบต.หนองย่างเสือ ที่อนุญาตให้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ เกษตรกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว แต่นายก อบต.ฯ ปฏิเสธ ผู้สื่อข่าวจึงยื่นเอกสารขอข้อมูลข่าวสารทางราชการตามกฎหมาย เพื่อร้องขอเอกสารฉบับดังกล่าว