เวลา 13.40 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ทรงเปิด "ศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญและที่พักของมูลนิธิชัยพัฒนา" ซึ่งเป็นโครงการฯ ที่มีพระราชดำริให้ มูลนิธิชัยพัฒนาประสานกับสภากาชาดไทย ในการสร้างศูนย์ฝึกอบรมตามแนวพระราชดำริบนที่ดินของสภากาชาดไทย เนื้อที่ 8 ไร่เศษ เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอบรมและเป็นที่พักของผู้มาศึกษาดูงานโครงการมูลนิธิชัยพัฒนา ตั้งชื่อตามความประสงค์ของผู้บริจาคที่ดิน คือ นางสุดา วรธงไชย และนางดวงเดือน เรืองพาณิชย์ โดยเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2562 ประกอบด้วย อาคารพัก 7 อาคาร จำนวน 29 ห้อง รวม 106 เตียง มีการจัดตั้ง "ร้านภัทรพัฒน์"และ "ร้านกาแฟภัทรพัฒน์ By สุดาเดือนเพ็ญ"
จากนั้น พระราชทานแพะพ่อพันธุ์ชามี่ จำนวน 10 ตัว จากโครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านดงพระพร ศูนย์ผลิตและกระจายพันธุ์สัตว์ จังหวัดเชียงราย แก่เกษตรกรในจังหวัดนครนายก ในการนี้ ผู้แทนบริษัท ซีพีเอฟ ประเทศไทย จํากัด มหาชน ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายใบรับรองพันธุ์และประวัติแพะพ่อพันธุ์ชามี่ จํานวน 5 ตัว เพื่อมอบให้แก่โครงการฯ
โอกาสนี้ ทรงเปิด "อาคารใบไม้" เป็นสถานที่เรียนรู้ในเชิงปฏิบัติแห่งใหม่สำหรับเด็กและเยาวชน รวมทั้ง เป็นที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ขอใช้พื้นที่จากกรมชลประทาน ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา, สำนักงาน กปร. และกรมชลประทาน โดยงบประมาณในการก่อสร้างอาคารมาจากการสนับสนุนของ Diplomatic Council Thailand
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังศาลาทหารพันธุ์ดี ภายในงาน "ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร นครนายก" ทอดพระเนตร "โครงการทหารพันธุ์ดี" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนาและกองทัพบก ในการดำเนินงานสนองพระราชดำริ เพื่อให้ทหารกองประจำการมีความรู้และประสบการณ์ในการทำการเกษตรและขยายผลสร้างเครือข่ายในชุมชนที่อยู่อาศัย ปัจจุบัน มีหน่วยทหารระดับกองพันขึ้นไป เข้าร่วมโครงการฯ 141 หน่วย
ในการนี้ ทรงร่วมกิจกรรมสอยดาว มีการจัดโซนพิเศษสำหรับเกษตรกรและผู้สนใจการเกษตร โดยเฉพาะบนพื้นที่ส่วนขยายของศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญฯ นำเสนอนิทรรศการความรู้ และวางจำหน่ายสินค้าคุณภาพเพื่อการเกษตร รวมทั้ง นำสัตว์และเมล็ดพันธุ์มาจัดแสดงและจำหน่ายในงาน เช่น โคนม ไก่พันธุ์เบตง ไก่งวง แพะพันธุ์แบล็คเบงกอล แพะพันธุ์บอร์ และกบนา นอกจากนี้ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด มหาชน หรือ บาฟส์ ร่วมกับ ทหารพันธุ์ดี ในการขยายผลสู่ชุมชน ได้มาจัดแสดงเทคโนโลยีทางการเกษตรและกิจกรรมสำหรับเกษตรกรและผู้สนใจ
ต่อจากนั้น ทรงเปิดงาน "ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร นครนายก" ณ สวนสาธารณะบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล โดยมูลนิธิชัยพัฒนาจัดขึ้น เพื่อจำหน่ายสินค้า และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รู้จักผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์ และเรื่องราวความหมายที่อยู่เบื้องหลังผลิตผลจากการพัฒนา รวมทั้งรู้จักแนวคิดด้านการพัฒนา ผลงาน และผลิตผลต่าง ๆ จากโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนาทั่วประเทศ ตลอดจน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีความร่มเย็นเป็นสุข อยู่ดีกินดี อันนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศจนเกิดเป็น "ชัยชนะจากการพัฒนา" ตามที่ได้พระราชทานชื่อมูลนิธิไว้ว่า "ชัยพัฒนา" พร้อมกันนี้ ทอดพระเนตรร้านค้าในโซนต่าง ๆ แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนร้านค้าของมูลนิธิชัยพัฒนา จำหน่ายผลิตผลจากการพัฒนาจากโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนาทั่วประเทศ กว่า 45 โครงการ ร้านภัทรพัฒน์ และร้านจันกะผัก โดยมูลนิธิฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ สปอร์เห็ดหลินจือ บรรจุแคปซูล ตราภัทรพัฒน์ จากโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาเกษตรกรรมบนพื้นที่สูงของมูลนิธิชัยพัฒนา อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมแพะชามี่ โครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านดงพระพร อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย คือ ชีสนมแพะชามี่ เสริมโปรไบโอติก มีชีสเกาด้าและเชดด้า, ไอศกรีมชีสจากนมแพะ และ Cheese Box
โซนร้านค้าจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้ง ศูนย์สาขาและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, โซนสินค้าเด่น ร้านอาหารดัง และผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดนครนายก, โซนสินค้าและบริการจากบริษัทพันธมิตรของมูลนิธิฯ และโซนศิษย์เก่าหลักสูตร "ผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืน" จำหน่ายสินค้าจากชุมชนที่ได้เข้าไปช่วยพัฒนาจนประสบผลสำเร็จ
ในการนี้ ทรงปรุงอาหารเมนูพระราชทาน 3 อย่าง ได้แก่ ทอดมันหัวปลี ทอดมันข้าวโพด และทอดมันข้าวโพดใส่ใบเล็บครุฑ โดยใช้น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ตราภัทรพัฒน์ เพื่อนำรายได้จากการประมูลสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนาต่อไป
ภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแสดงกลุ่มสามน้า, สาธิตการประกอบอาหาร และการจำหน่ายสินค้าคุณภาพจากทั่วทุกภูมิภาค กว่า 170 ร้าน ผู้ที่สนใจสามารถร่วมงานฯ ได้จนถึงวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.