ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ธรรมนัส-ชาดา ร่วมงานศพ สจ.โต้ง ที่ จังหวัดปราจีนบุรี ส่วนทักษิณไม่ได้มาร่วมพิธี ขณะเดียวกัน ครอบครัวต้องการเก็บร่างของ สจ.โต้ง ไว้ จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม
ตามที่มีรายงานข่าวว่า วันที่ 17 ธันวาคม ซึ่งจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ สจ.โต้ง ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี เป็นวันสุดท้าย (ยังไม่เผา) ก่อนจะเก็บศพไว้ เพื่อรอความชัดเจนของคดี กรณีถูกรัวยิงร่างพรุนดับ กลางบ้านพักของโกทร นายสุนทร วิลาวัลย์ อายุ 86 ปี นายก อบจ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงดึกวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยตอนแรก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า จะเดินทางมาร่วมงานศพ สจ.โต้ง ทำให้บรรดาญาติพี่น้องติดป้ายต้อนรับที่บริเวณหน้าทางเข้า วัดมะกอกสีมาราม ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นป้ายขนาดใหญมีข้อความระบุว่า "ครอบครัวสิทธิสนิทพงษ์และชาวปราจีนบุรี ยินดีต้อนรับท่านทักษิณ ชินวัตร ด้วยความเคารพยิ่ง"
แต่ล่าสุดมีรายงานว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่เดินทางไปร่วมงานศพแล้ว ส่วนสาเหตุเป็นเพราะ สจ.จอย นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน ภรรยา สจ.โต้ง เตรียมประกาศ เปิดตัวชิงเก้าอี้นายกอบจ.และอาจลงสมัครในสีเสื้อพรรคเพื่อไทยหรืออาจลงในนามอิสระหรืออาจลงในนาม พรรคกล้าธรรมก็เป็นได้
เหตุนี้ทำให้ อดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่เดินทางไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ เพื่อตัดความเชื่อมโยงทางการเมืองว่า อดีตนายกฯมีบทบาทให้การสนับสนุน สจ.จอย ซึ่งด้วยสถานะปัจจุบัน ย่อมเป็นคู่ขัดแย้งกับโกทร และพวก ซึ่งสังกัดพรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 2
ธรรมนัส-ชาดา ร่วมงานศพ สจ.โต้ง
สำหรับในวันนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานีพรรคภูมิใจไทย พร้อม นักการเมืองท้องถิ่นในจ.ปราจีนบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมาร่วมงาน
ภายหลังพิธี ร้อยเอก ธรรมนัส เปิดใจว่า วันนี้มาแสดงความอาลัยกับ สจ.โต้ง ที่ผ่านมา ไม่อยากให้สัมภาษณ์อะไร เพราะ สจ.โต้ง เป็นน้องรักมานาน วันนี้เลยอยากมาอาลัย ส่วน สจ.จอยนั้น สจ.โต้งพามาพบตน จึงพาไปพบนายทักษิณ ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วันเท่านั้น
เมื่อถามว่าจะส่ง สจ.จอย ลงชิงนายก อบจ.ปราจีนบุรีหรือไม่ ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า ตั้งแต่โต้งเสียชีวิต สจ.จอยจะโทรมาหาตลอด วันนี้ได้คุยกับ สจ.จอย ก็น่าจะลงเลือกตั้งนายกอบจ.ปราจีนบุรี โดยตอนนี้เป็นสมาชิกเพื่อไทย แต่จะส่งอย่างไรก็ต้องคุยกันอีกครั้ง
สจ.จอย สานฝันเปิดศึกชิง นายก อบจ.
ด้าน สจ.จอย เปิดใจว่า เบื้องต้นเป็นไปตามที่ร้อยเอก ธรรมนัสพูด ร้อยเอก ธรรมนัสเหมือนเป็นตัวแทนพี่โต้ง โดยตนจะลงเลือกตั้งนายกอบจ.ปราจีนบุรีในนามพรรคเพื่อไทย "ใจลึก ๆ ก็กลัว แต่เชื่อทุกคนอยู่ภายในกฎหมาย ความยุติธรรมต้องมี ส่วนตัวได้คุยกับท่านทักษิณผ่าน ร้อยเอก ธรรมนัส ที่ตัดสินใจเดินหน้าลงอบจ.นั้น เพราะเป็นฝันของพี่โต้ง พี่โต้งตั้งใจให้เราเป็นนายกอบจ. ครอบครัวก็ไม่ได้คัดค้าน"
สำหรับจังหวัดปราจีนบุรี มี สส.ได้ 3 คน ส่วนใหญ่เป็นของ บ้านใหญ่ปราจีนบุรี ตระกูลวิลาวัลย์ ซึ่งนำทีมโดย โกทร สุนทร วิลาวัลย์ ซึ่งในช่วงสิบกว่าปีมานี้ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ยึดกุมฐานการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติไว้ในมือเกือบทั้งหมด ยกเว้นการเลือกตั้ง สส.เมื่อปี 66 พื้นที่เขต 2 ถูกเจาะจากพรรคก้าวไกล คือ คุณวุฒิพงศ์ ทองเหลา หรือ สส.แจ้ แต่ภายหลังถูกขับออกจากพรรคเพราะปัญหาพฤติกรรมส่วนตัว
ส่วนการเลือกตั้ง นายกอบจ. ที่กำลังจะหมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคม และเลือกตั้งใหม่ 1 กุมภาพันธ์ปีหน้านั้น โกทร อยู่ระหว่างถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงมีแนวคิดจะเว้นวรรคทางการเมือง เพราะน้องสาวที่เคยเป็น นายกอบจ. ก็โดนคดีฮั้วประมูล ทำให้มีช่องว่างให้พรรคเพื่อไทยติดต่อ สจ.โต้ง ให้ส่งภรรยา สจ.จอย ลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ. และให้ทำพื้นที่ต่อเพื่อช่วงชิง สส.ปราจีนบุรี 3 เขตมาเป็นของเพื่อไทย หรือให้เพื่อไทยเบียดแทรกเข้าไปได้บ้าง และจุดนี้เองที่เป็นชนวนขัดแย้งระหว่าง โกทรกับ สจ.โต้ง ซึ่งตำรวจให้น้ำหนักว่าน่าจะเป็นชนวนเหตุของการสังหารโหด สจ.โต้ง
สังหาร สจ.โต้ง ไม่เข้าข่ายผู้มีอิทธิพล
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เหตุยิง สจ.โต้ง เป็นการทะเลาะวิวาทและบันดาลโทสะ ใครทำอะไรไปก็ต้องรับผลกรรม แต่ถ้าจะออก ไปซ่าข้างนอกก็ไม่เหลือ ทำไม่ได้
เมื่อถามว่า ตอนที่กระทรวงมหาดไทยมีการลิสต์รายชื่อผู้มีอิทธิพล มีรายชื่อของบ้านใหญ่ปราจีนบุรี อยู่ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่ามีอิทธิพลมีหลายอย่าง การทำให้ชาวบ้านเชื่อถือเคารพศรัทธา ก็ถือว่าเป็นอิทธิพล ถ้าแบบนี้ไม่เป็นไร ทุกคนมีอิทธิพลหมดขึ้นอยู่กับว่าจะไปทำให้เกิดประโยชน์กับ บ้านเมืองหรือทำให้ผู้คนเดือดร้อน เราก็มุ่งไปปราบอิทธิพลที่ทำให้ผู้คนเดือดร้อน ถ้าเขาทะเลาะวิวาทกัน เองบันดาลโทสะกัน ตรงนี้ไม่อยู่ในข่าย แต่ต้องไปดูว่าอาวุธปืน มาจากไหน ต้องไปขยายความ เพราะอาวุธปืนที่ใช้ดูแล้วคนธรรมดาก็ไม่ได้พกพาอะไรขนาดนั้น ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่แยกแยะออกว่า ใช้อิทธิพลในการประกอบคุณงามความดี หรือใช้อิทธิพลในการข่มเหงรังแกชาวบ้าน นายอำเภอผู้ว่าตำรวจ ดูออกอยู่แล้วตนเองก็ดูออก