ห้องข่าวภาคเที่ยง - โต้กันเดือด ประเด็นดรามา ปมประเด็นข้อสงสัย สะใภ้วางยาแม่ผัวและยาย หวังล้างหนี้
โต้เดือด ! ดรามา ปมวางยาแม่ผัว และยาย
ทีมข่าวลงพื้นที่ ไปบ้านของครอบครัวนี้ ที่จังหวัดจันทบุรี เปิดใจพี่สะใภ้ที่ถูกกล่าวหา ยืนยันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับสารพิษใด ๆ ไม่ได้วางยาใคร
ครอบครัวนี้ ญาติอยู่บ้านติด ๆ กัน เหตุเกิดในอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ทีมข่าวได้พูดคุยอย่างเปิดใจกับทั้ง 2 ฝ่ายที่บ้าน
พี่สะใภ้ เล่าว่า ปกติแล้วจะเป็นคนดูแล ขับรถไปรับไปส่ง ยาย และ ป้าสมหมาย ซึ่งเป็นพี่สาวของแม่ผัวไปส่งทำธุระ ไปตลาด ไปโรงพยาบาล อยู่บ่อยครั้ง มาที่ประเด็นยายป่วย เข้าโรงพยาบาลก่อน เหตุเกิดวันที่พายายไปตลาด ไปซื้อของ
พอยายกลับขึ้นรถ ก็ได้กลิ่นเหม็น เหมือนถ่ายเลอะ นั่งนิ่ง ต่อมาก็มีอาการเกร็ง นำส่งโรงพยาบาล
ส่วนประเด็นทอง 1 บาท ของยายช่วย ที่บอกว่าตนเป็นคนเอาไปนั้น จริง ๆ แล้วนางช่วยเป็นคนถอดสร้อยทองให้ตนให้เอาไปจำนำกับร้านในพื้นที่
ถามต่อถึงเรื่องป้าสมหมาย ผู้เสียชีวิตยอมรับว่า เป็นคนไปรับ แล้วไปเยี่ยมนางช่วย ที่โรงพยาบาลจริง ระหว่างรอขึ้นไปเยี่ยมนางช่วย ได้ชวนกันไปนั่งกินข้าวที่โรงอาหารภายในโรงพยาบาล
ตอนนั้นนางสมหมาย เดินไปซื้อน้ำเปล่าสองขวด เพื่อมาดื่มคนละขวด ส่วนตนเดินไปซื้อราดหน้ามาสองชาม เพื่อมากินกันคนละชาม ตนไม่ได้มีการซื้อน้ำให้ป้าสมหมายดื่ม
ส่วนเรื่องของหนี้สินที่ตนโดนกล่าวหาว่าติดหนี้ ยอมรับเป็นหนี้จริงแต่เป็นหนี้ที่ไปหยิบยืมคนอื่นมาและส่งดอกเป็นรายวัน ส่วนใหญ่เป็นหนี้จากการเล่นหวย และเอามาใช้จ่ายในครอบครัว การหยิบยืมเงินของผู้ตายก็มีบ้าง แต่ผลัดกันยืม ตอนนี้
หนี้ที่เหลือไม่มากแล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรจะต้องก่อเหตุในการวางยา เพื่อล้างหนี้
อย่างไรก็ตาม ผัวของป้าสมหมายเชื่อมั่นว่า ป้าสมหมายถูกวางยา อาการของยายและเมีย เป็นอาการเดียวกัน หมดสติและส่งโรงพยาบาล
ประเด็นนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จะสอบสวนให้ความจริงกระจ่างใน 7 วัน ทั้งเรื่องสารผิดปกติ ที่พบในร่างกาย ปมเหตุการวางยาว่าเข้าข่ายแบบเดียวกับ แอม ไซยาไนด์หรือไม่
สัปดาห์หน้า ทราบผลตรวจสารพิษ
สอบถามเรื่องการคลี่คลายคดีกับ นายเอกภพ ว่าหลังจากนี้ควรเป็นอย่างไรต่อ ก็บอกว่าต้องรอผลการตรวจชิ้นเนื้อ หรือผลการตรวจสารพิษในร่างกายผู้ตาย ว่าสรุปแล้วเป็นสารพิษประเภทไหน ตรงกับหลักฐานที่เจอในบ้านหรือเปล่า
เมื่อตรวจสอบประวัติย้อนหลังของพี่สะใภ้รายนี้ มีข้อมุลว่า ลูกชายของพี่สะใภ้รายนี้ป่วยเป็นโรคร้ายแรง และเสียชีวิต ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจ ไปเจอขวดยาสารเคมีบางอย่าง จึงต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ยาที่ไปเจิอเป็นชนิดเดียวกันกับที่ไปตรวจเจอในร่างกายของแม่ผัวกับยายหรือไม่ ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่รอการตรวจสอบ
เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีข้อมูลเรื่องการตายของลูกชาย ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง มีข้อสงสัยบางประการที่ชวนให้คิดว่าอาจจะเป็นแรงจูงใจบางอย่างในคดีนี้ก็ได้ แต่ต้องย้ำว่านี่เป็นแค่ข้อสันนิษฐาน เท่านั้น เพราะมาจากคำบอกเล่า ไม่มีพยานหลักฐาน