มูลนิธิเป็นหนึ่ง พร้อม พมจ.ฉะเชิงเทรา รุดช่วย 2 เด็กหญิงสุดเวทนา ! พ่อติดคุกคดียาเสพติด ส่วนแม่ขโมยเงินหอบหนีตามผู้ชาย ปล่อยลูกให้ตาเลี้ยงลำพัง
วันนี้ ( 20 ธ.ค.67 ) มูลนิธิเป็นหนึ่ง พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ช่วยเหลือเด็กหญิง อายุ 5 ขวบและ 7 ขวบ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่าเด็กทั้ง 2 คน ถูกพ่อแม่แท้ๆ ทุบตี ทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง ก่อนนำมาทิ้งให้อยู่กับตาอายุ 69 ปี บางวันต้องอดมื้อกินมื้อ เพราะตายากจน ไม่มีเงินเลี้ยงดูหลานทั้ง 2 คน
เมื่อไปถึงพบนายสมศักดิ์ อายุ 69 ปี อาศัยอยู่บ้านเพิงไม้สภาพเก่า พร้อมกับหลานสาว 2 คน ถูกแม่แท้ ๆ นำมาทิ้งไว้ให้ดูแลเพียงลำพัง ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อของเด็ก จะเข้าไปติดคุกรับโทษคดียาเสพติด ก็มักจะมีปัญหา ทะเลาะกับแม่เด็กบ่อยครั้ง ถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกาย แต่ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยไปตบตีหลานทั้ง 2 คน มีแต่แม่เด็ก ที่มักจะอารมณ์รุนแรงชอบดุด่า และใช้ไม้แขวนเสื้อตีหลานจนเป็นรอยฟกช้ำ อีกทั้งแม่เด็กยังมาแอบเอาเงินดิจิตอลวอเล็ต 1 หมื่นบาทที่ได้จากรัฐบาล ไปใช้จ่ายส่วนตัว ก่อนจะหอบเสื้อผ้าหนีหายไปอยู่กับชายคนอื่นไม่ซ้ำหน้า ระหว่างที่ลูกชายติดคุกอยู่
ต่อมาแม่ของเด็ก มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ยอมรับว่าตัวเองตีลูกจริง แต่ตีเพราะลูกดื้อ พูดไม่ฟัง เลยตีเพื่อสั่งสอนเท่านั่น ซึ่งเธอก็เคยถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกายมาด้วยเช่นกัน จึงทนไม่ไหวต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ยังวนเวียนมาดูแลลูกทั้ง 2 คนอยู่ห่างๆ ส่วนเรื่องเงิน 1 หมื่นบาท เธอเอาไปจริงแต่เอาไปซื้อของกินของใช้มาให้ลูก ๆ รวมถึงของใช้ของนายสมศักดิ์ด้วย ไม่ได้แอบเอาไปใช้ส่วนตัวตามที่ถูกกล่าวหา เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะดูแลลูกทั้ง 2 คนอย่างไร แม่เด็กกลับตอบไม่ได้ และยังมีข้อมูลว่า หญิงคนนี้เคยมีครอบครัวมาก่อนที่ จ.สิงห์บุรี มีลูกกับแฟนเก่า 3 คน
ด้านพลเมืองดี เล่าว่า เห็นว่าเด็กทั้ง 2 คน ถูกแม่ทำร้ายด้วยการใช้รองเท้าตีเข้าที่ใบหน้าอย่างรุนแรง เพียงเพราะปั่นจักรยานยนต์ล้ม โดยเธอได้แอบเข้าไปดูสภาพความเป็นอยู่ จึงทราบว่าเด็กทั้ง 2 คนถูกพ่อแม่นำมาทิ้งให้ตาเลี้ยงดู บางวันอดมื้อกินมื้อเพราะตาไม่มีเงินไปซื้อข้าวให้กิน จึงตัดสินใจนำเรื่องราวไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อเปิดรับบริจาคจากผู้ใจบุญเพื่อนำไปมอบให้กับคุณตา และตอนนี้มีคนโอนเงินบริจาคให้แล้วกว่า 4 หมื่น
เบื้องต้น พมจ.ฉะเชิงเทรา เข้าประเมินสภาพความเป็นอยู่แล้ว ทราบว่าเด็กทั้ง 2 คนมีญาติที่พร้อมเลี้ยงดูอยู่ไม่ไกล แต่เนื่องด้วยสภาพบ้านของญาตินั้น ยังไม่เหมาะสมที่จะรับเด็กไปเลี้ยงดู จึงขอนำตัวเด็กทั้ง 2 คน ไปอยู่ในการดูแลคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ก่อน ระหว่างรอการบูรณาการบ้าน ส่วนทางคุณตา พมจ.ฉะเชิงเทรา และกรมการปกครองจะหารือกันอีกครั้ง เพื่อเข้ามาซ่อมแซมสภาพบ้านให้ดีขึ้นตามลำดับต่อไป
