ศาลพัทยา ตัดสินประหารชีวิต 3 จำเลยแก๊งฆ่าหั่นศพนักธุรกิจเยอรมัน ยัดตู้แช่เย็น

ศาลพัทยา ตัดสินประหารชีวิต 3 จำเลยแก๊งฆ่าหั่นศพนักธุรกิจเยอรมัน ยัดตู้แช่เย็น

View icon 267
วันที่ 20 ธ.ค. 2567 | 20.20 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลพัทยา พิพากษาประหารชีวิต “โอลาฟ และพวก” อุ้มฆ่าหั่นศพนักธุรกิจเยอรมัน ยัดตู้แช่เย็น โอนเงินจากบัญชีผู้ตาย 3.3 ล้านบาท หัวหน้าแก๊ง-นางนกต่อ รับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

วันนี้ (20 ธ.ค.67)  ศาลจังหวัดพัทยา อ่านคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำ 970 / 2566 คดีอาญาหมายเลขแดง 1514 / 2567 ที่อัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์ (MR.OLAF THORSTEN BRINKMANN) อายุ 52 ปี ชาวเยอรมัน หัวหน้าแก๊ง, นางเพธา คริสเติล กรุนด์กริฟ (MS.PETRA CHRISTL GRUNDGREIF) อายุ 54 ปี ชาวเยอรมัน นางนกต่อ และนายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติไทยเชื้อชาติปากีสถาน เป็นจำเลยที่ 1- 3 ฐานความผิด ”ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ“ กรณีร่วมกันอุ้มฆ่าหั่นศพนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวเยอรมัน เมื่อวันที่ 5 ก.ค.66

โดยระหว่างพิจารณาคดี โอลาฟ และนางเพธา ให้การรับสารภาพ ส่วนนายชาฮ์รูค ต่อสู้คดีมาตลอด ศาลจังหวัดพัทยา พิพากษาให้ประหารจำเลยทั้ง 3 คน แต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

สำหรับคดีดังกล่าวเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก โดยเหตุเกิดในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งจำเลยทั้ง 3 คนร่วมกันลวง นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค (MR.HANS PETER RALTER MACK) อายุ 62 ปี ไปฆ่า แล้วนำศพไปหั่นเป็นชิ้นเพื่อจะนำทิ้งทะเล และโอนเงินออกจากบัญชีของนายปีเตอร์มัคไป รวม 3,350,000 บาท ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจ สภ.หนองปรือ ได้ทำการสืบสวนและจับกุมจำเลยทั้งสามได้ และติดตามเงินที่ถูกประทุษร้ายไปคืนให้ญาติผู้ตายรวม 1,250,000 บาท จากนั้นได้นำตัวส่งให้อัยการจังหวัดพัทยา ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา แม้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนจะให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน จากพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่รวบรวมมาได้เชื่อมโยงสอดคล้องกันตั้งแต่ผู้ต้องหาทั้งสามคนมีการติดต่อชักชวนกันมากระทำผิดจริง 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.66 ศาลจังหวัดพัทยา มีการอ่านคำพิพากษา นายเอ็นริโก้ ชาวเยอรมัน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ฐานความความผิด ฐานยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีฯ และนำไปรับของโจร เนื่องจากเป็นผู้รับโอนเงินจากนายโอลาฟ โดยศาลมีคำสั่งให้ลงโทษจำคุกนายเอ็นริโก้ จำนวน 6 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง