ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คนแก่ก็ไม่เว้น ! คนร้ายตระเวนไปกระทำชำเราผู้สูงอายุตามหมู่บ้าน ตอนกลางวันแสก ๆ ทำให้ผู้หญิงในหมู่บ้าน หวาดผวากันทั่ว
คุณยาย อายุ 78 ปี และ อายุ 68 ปี ทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เดินทางมาจาก จังหวัดนครราชสีมา ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังถูกคนร้ายกระทำชำเราตอนกลางวันแสก ๆ คาดเป็นคนร้ายคนเดียวกัน
ผู้เสียหายรายแรก เป็นคุณยายอายุ 68 ปี เล่าว่า ครอบครัวมีอาชีพทำนาปลูกข้าว กระทั่ง วันที่ 8 สิงหาคม ตนเองและสามี ได้ออกไปเก็บต้นกล้าข้าว ที่นาท้ายหมู่บ้าน อำเภอบัวใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้าน 500-600 เมตร พอช่วงเที่ยงสามีกลับเข้าไปบ้านก่อน จู่ ๆ มีคนร้ายเป็นชาย 1 คนสวม หมวกไอ้โม่งปิดบัง ใบหน้า รูปร่างผอม สูง สวมเสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ เข้ามาประชิดตัวถามว่า "มีจอบเสียมให้ยืมไหม?" ก่อนบีบคอลากยายไปใกล้บ่อน้ำกลางนา จากนั้นก็ถามอีกว่า "มีเงินไหม?" พอยายบอกว่า "ไม่มี" คนร้ายก็สั่งให้อยู่นิ่ง ๆ ก่อนถูกกระทำชำเรา และเมื่อสำเร็จความใคร่คนร้ายก็วิ่งหลบหนีไป ส่วนยายรีบไปบอกสามี
และที่ตกใจกว่านั้นคือ ก่อนหน้า 2 สัปดาห์ มียายคนหนึ่งในหมู่บ้าน อายุ 70 ปี ก็ถูกโจรสวมโม่ง ลักษณะเดียวกันกำลังจะกระทำชำเรา โชคดีมีชาวบ้านผ่านมาเห็น และช่วยเหลือได้ทัน ก่อนพากันไปแจ้งความ
แต่คนร้ายยังไม่หยุดพฤติกรรม วันที่ 14 ธันวาคม คุณยายอายุ 78 ปี ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเหยื่อรายแรก มีบ้านอยู่ติดกัน ได้ออกไปเก็บข้าวตามปกติทุกวัน คนร้ายลักษณะเดิม เข้ามาประชิดตัวจากด้านหลัง พร้อมบีบคอยาย ก่อนถามว่า "มีเงินไหม?" พอยายบอกว่า "มีอยู่ 420 บาท" คนร้ายก็ล้วงเอาไปหมด ด้วยความกลัว คุณยาย บอกว่า "จะไปแจ้งตำรวจ" คนร้ายกลับท้าทาย บอกว่า "ไม่กลัว เพราะตำรวจทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากตนเองแค่มาหาปู" ก่อนทิ้งท้ายว่า "เอาซะหน่อย" จากนั้นก็กระทำชำเราคุณยาย ก่อนหลบหนีไป
โดย คุณยาย อายุ 78 ปี บอกว่า หลังฟังเรื่องของน้องสาว ตอนแรกรู้สึกสงสารน้องอย่างมาก เพราะน้องเสียขวัญ เครียดนอนไม่หลับ จนหมอต้องให้กินยาคลายเครียด แถมหวาดกลัวไม่กล้าไปไร่ไปนา ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดไม่คาดคิดว่าจะเกิดกับตนเอง
ส่วนที่มาร้องปวีณา เพราะแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ไปแล้ว ก็ไม่สามารถจับคนร้ายได้เสียที ทำให้ครอบครัว รวมไปถึง คนในหมู่บ้าน รู้สึกหวาดกลัว เพราะเกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุอีก
เบื้องต้น ทางคุณปวีณา ได้โทรศัพท์ประสาน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา แล้ว พร้อมกล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ตำรวจต้องเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากชาวบ้าน ผู้หญิง คนแก่ หญิงชรา และเด็ก หวาดกลัวกันมาก คาดว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะ ใส่หมวกไอ้โม่งตลอดเวลา กลัวคนจะจำได้และรู้เส้นทางพื้นที่เป็นอย่างดี และมีพยานบอกว่า ช่วงเกิดเหตุเห็นชายต้องสงสัยลักษณะเดียวกันกับที่ยายแจ้ง วนเวียนอยู่แถวนั้น