พ่อยังช็อก หลังทราบข่าวลูกสาวอยู่บนเครื่องบิน ลำเกิดเหตุไถลตกรันเวย์ที่เกาหลีใต้ เผย ลูกสาวมีครอบครัวอยู่ที่เกาหลี ช่วงใกล้ปีใหม่พาสามีชาวเกาหลีมาเที่ยวบ้านที่ อุดรฯ และส่งสามีกลับก่อน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. แต่ตัวลูกสาวเพิ่งบินตามกลับไป
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ เที่ยวบินที่ 7C2216 เส้นทางกรุงเทพฯ-มูอัน ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ขณะลงจอดที่สนามบินนานาชาติมูอัน ประเทศเกาหลีใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น ซึ่งผู้โดยสารสายการบินมีคนไทย 2 คนด้วย ขณะนี้ ทางการยังไม่ยืนยันสถานะของคนไทยทั้ง 2 คน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังบ้านพักของ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี หญิงสาวอุดรธานี หนึ่งในคนไทยที่อยู่บนเครื่องบินลำเกิดเหตุ พบกับญาติและคุณพ่อของ น.ส.จงลักษ์ กำลังจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายบุญช่วย ดวงมณี อายุ 77 ปี พ่อของ น.ส.จงลักษ์ เปิดเผยว่า รู้ข่าวตกใจแทบช็อก เมื่อรู้ว่าลูกสาวเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เครื่องบินลื่นไถลตกรันเวย์ที่เกาหลีใต้ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวของตัวเอง เคยเห็นแต่ในข่าว รู้ข่าวเมื่อสายวันนี้ ซึ่งลูกๆ โทรมาบอกว่าจงลักษ์ ลูกสาวคนสุดท้องอาจเสียชีวิต เมื่อทราบข่าวก็ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว ตนเองมีลูก 3 คน ไปทำงานต่างประเทศทั้งหมด รวมทั้ง น.ส.จงลักษ์ เป็นลูกสาวคนสุดท้อง ไปทำงานที่เกาหลีใต้ประมาณ 7 ปีแล้ว และไปแบบถูกต้องตามกฎหมาย จนได้สามีชาวเกาหลีใต้ ชื่อเจโฮ จัง ทำงานโรงงานที่เมืองนาจู ปกติลูกสาวจะมาเยี่ยมบ้านเกิดที่อุดรธานี ปีละครั้ง ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ลูกสาวพาสามีมาเที่ยวเมืองไทยตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.แล้ว พากันไปเที่ยว จากนั้นลูกสาวก็ส่งสามีกลับก่อนในวันที่ 13 ธ.ค. จนมาวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ถามเรื่องลางสังหรณ์ ก็มีบ้างลูกสาวบอกว่าถ้าครอบครัววุ่นวายกันนัก ก็จะไม่กลับมาอีก ช่วงนั้นลูกสาวมาพักที่จ.อุดรธานี วันที่ 9-13 ธ.ค. คงน้อยใจไม่ได้เอารถไปส่งลูกสาว เพราะติดส่งญาติป่วย และอีกเรื่องคือลางสังหรณ์ ลูกสาวยื่นเงินให้ 10,000 บาท บอกให้เอาไปจ่ายค่าฌาปนกิจของลูกสาวเองที่ทำไว้กับกองทุนหมู่บ้าน ไม่คิดว่าเงิน 10,000 บาทจะเป็นเงินสุดท้าย หากลูกสาวของตนเองเสียชีวิตจริง พ่ออยากได้ศพลูกสาวมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ขอดูหน้าเป็นครั้งสุดท้าย” หัวอกพ่อพูดไปน้ำตาก็คลอไป
