เวลา 09.00 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ซึ่งกองบินตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดถวาย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินโครงการตามพระราชดำริที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเรดาร์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 เพื่อขยายโอกาสให้เด็กและเยาวชนจากบ้านเรดาร์ บ้านโชคดีสุพรรณ บ้านลิเจีย บ้านทิโคร่ง และบ้านรันตี ซึ่งเป็นกลุ่มบ้านที่อยู่เหนือเขื่อนวชิราลงกรณ มีประชากรหลายเชื้อชาติ ได้แก่ กะเหรี่ยง มอญ เมียนมา และชาวไทยอีสาน ที่อพยพมาทำอาชีพประมง คนรุ่นใหม่สามารถฟัง พูด และเขียนไทยได้ อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
ปัจจุบัน มีนักเรียนชั้นอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 รวม 303 คน บางคนต้องพักค้างที่โรงเรียน เนื่องจากมีบ้านเป็นแพอยู่กลางน้ำ เดินทางลำบาก กิจกรรมเด่น ได้แก่ โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีผลการดำเนินงานดีมาก สามารถขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชน มอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน เป็ดและไก่พื้นเมือง ให้ผู้ปกครองนำไปปลูกและเลี้ยงที่บ้าน ในปี 2568 กรมชลประทาน จะสำรวจออกแบบการก่อสร้างแพสูบน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ พร้อมถังพักน้ำ เพื่อให้โรงเรียน และชุมชน มีน้ำเพิ่มเติมพอใช้ในฤดูแล้ง
โรงเรียน ยังช่วยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปปลาบ้านแพรทอง นำสินค้ามาจำหน่ายผ่านระบบสหกรณ์โรงเรียน มีนักท่องเที่ยวแวะซื้อเป็นของฝาก ที่ขึ้นชื่อคือ ปลาสร้อยแดดเดียว และปลาซิวแก้ว กำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่าย จัดสรรเป็นทุนสำรอง, ทุนขยายกิจการ, ทุนสาธารณประโยชน์ และทุนศึกษาอบรม ส่วนที่เหลือเป็นเงินโบนัสเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิก ปีการศึกษานี้ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 25,924.82 บาท
ทั้งยังนำโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในพื้นที่ทุรกันดาร Triple-P หรือ Positive Parenting Program มาปรับใช้ เพื่อให้ผู้ปกครองมีบทบาทและทักษะในการเลี้ยงดูบุตรหลานให้เหมาะสมกับวัย การเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว หลังจากดำเนินงานมา 3 ปี พบเด็กเล็กมีความฉลาดทางอารมณ์สมบูรณ์สมวัย มีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว และการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น การติดกระดุมเสื้อ ช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวันได้
กิจกรรมฝึกอาชีพ มีครูจากวิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี สอนวิธีซ่อมเครื่องยนต์เล็ก เช่น เครื่องยนต์เรือ และเครื่องตัดหญ้า ฝึกถอดประกอบเครื่องยนต์ ตรวจสภาพชิ้นส่วน บำรุงรักษาและแก้ปัญหาต่าง ๆ, การทอผ้าไหมด้วยกี่เอว, ทอผ้าพื้นเมือง รวมถึงเลี้ยงหม่อนไหม เพื่ออนุรักษ์และต่อยอดเป็นอาชีพ
จังหวัดกาญจนบุรี มีโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และศูนย์การเรียนรู้ 16 แห่ง อยู่ในความดูแลของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 และพื้นที่จุดบอดตามเทือกเขาถนนธงชัยและเทือกเขาตะนาวศรี เป็นพื้นที่ทุรกันดาร ต้องการสถานศึกษาหลายกลุ่มบ้าน ซึ่งตำรวจตระเวนชายแดนได้ลงพื้นที่เดินเท้าเข้าสำรวจ เพื่อช่วยเหลือและพิจารณาจัดหาที่ตั้งสถานศึกษาเพิ่มเติม สนองพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ประชาชนและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีโอกาสทางการศึกษาเพิ่มขึ้น
เวลา 12.42 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนวิจิตรวิทยาคารบ้านอีต่อง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โอกาสนี้ พระราชทานสิ่งของแก่ครูใหญ่, ผู้แทนนักเรียนชาย-หญิง และ พระราชทานพันธุ์ไม้ผลและเมล็ดพันธุ์ผักแก่ผู้แทนชาวบ้าน
จากนั้น ทรงติดตามผลการดำเนินโครงการพระราชดำริด้านต่าง ๆ โรงเรียนแห่งนี้ เปิดสอนชั้นอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 87 คน ในปีการศึกษา 2566 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ หรือ O-NET ในรายวิชาภาษาไทย, วิชาวิทยาศาสตร์, วิชาคณิตศาสตร์ และวิชาภาษาอังกฤษ สูงกว่าระดับประเทศ
ด้านแหล่งน้ำ ใช้น้ำประปาภูเขา ซึ่งไม่เพียงพอในช่วงหน้าแล้ง กรมชลประทาน จึงได้ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำบริเวณห้วยอีปู่ เพื่อกักเก็บน้ำ, ขุดลอกสระน้ำของโรงเรียน และทำสถานีสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมท่อส่งน้ำ และถังเก็บน้ำ 1 ถัง ขนาด 200 ลูกบาศก์เมตร โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงาน กปร. จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2569
กิจกรรมห้องสมุด ส่งเสริมการอ่าน โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น พี่อ่านให้น้องฟัง, พี่อาสาเล่านิทาน, หนังสือเล่มโปรดของฉัน และบรรณารักษ์อาสา ทำให้นักเรียนรักการอ่านมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสอนวิธีซ่อมหนังสือแบบสันบาง และสันหนา เป็นการยืดอายุหนังสือให้ใช้งานได้นานขึ้น
ด้านการฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้น วิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี เข้าไปฝึกอบรมแก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ได้แก่ การซ่อมประกอบไมโครคอมพิวเตอร์พร้อมติดตั้งระบบปฏิบัติการ, วิชาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปตารางคำนวณ Microsoft Excel ซึ่งนำมาใช้เก็บสถิติจำนวนไข่ที่เก็บได้จากไก่ไข่ที่เลี้ยงภายในโรงเรียนฯ เพื่อเปรียบเทียบจำนวนไข่ที่เก็บได้ในแต่ละวัน
กิจกรรมวิชาชีพ สอนแปรรูปกาแฟแก่นักเรียน ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บ ตาก คั่ว บด และนำไปบรรจุถุงเพื่อจำหน่าย เนื่องจากในชุมชนปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามีเป็นจำนวนมาก และโรงเรียนฯ ตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว จึงส่งเสริมเป็นอาชีพให้สามารถนำไปต่อยอดได้ นอกจากนี้ ยังมีการทำเค้กนึ่งจากกล้วย และฟักทอง
ด้านการเกษตร ผลผลิตทางการเกษตรเพียงพอต่อความต้องการและส่งเสริมให้นักเรียนลงมือปฏิบัติได้จริง ช่วยกันปลูกพืชหมุนเวียนที่เหมาะกับพื้นที่ สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ ทั้งพืชผักสวนครัว เช่น คะน้า, กวางตุ้ง, กะหล่ำปลี, มะเขือยาว ปลูกไม้ผล และเลี้ยงไก่ไข่ เป็ดไข่ และการเลี้ยงปลาในบ่อดิน เพื่อนำผลผลิตมาประกอบอาหารกลางวัน นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้การทำเกษตรแบบผสมผสานแก่ชุมชน โดยมีประชาชนเข้าไปเรียนรู้ 45 คน