เช้านี้ที่หมอชิต - โศกนาฏกรรมเครื่องบินของสายการบิน เจจูแอร์ มีความคืบหน้าในหลายมิติ ทั้งการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่ใกล้แล้วเสร็จ การดึงข้อมูลจากกล่องดำได้แล้ว ส่วนปมบินชนนก จนเป็นเหตุเครื่องบินต้องระเบิดเกิดเพลิงไหม้ขณะลงจอด ก็มีไทม์ไลน์ออกมาเช่นกัน รวมถึงญาติของ น้องเหมย หนึ่งในผู้โดยสารคนไทย ที่เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ก็เดินทางไปเกาหลีใต้ เพื่อรับร่างแล้ว
มาที่ข้อสัย "การชนเข้ากับนก" จนเครื่องบินของสายการบิน เจจูแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ก่อนชนกำแพงของสนามบินฯ มูอัน เกาหลีใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 179 คน จาก 181 คน ที่อยู่ในเครื่องบินลำเดียวกัน แต่วานนี้ ก็มีไทม์ไลน์ออกมาแล้ว โดยกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานและการขนส่ง ซึ่งรับผิดชอบด้านความปลอดภัยทางอากาศของเกาหลีใต้ แจ้งว่า ช่วง 08.54 น. หอบังคับการบินฯ อนุญาตให้เครื่องบินลำดังกล่าวลงจอดรันเวย์ 01
จากนั้น อีก 3 นาทีต่อมา หอบังคับการบินฯ ได้รับแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของนกใกล้สนามบินฯ ต่อมาอีก 2 นาที นักบินเครื่องบินลำดังกล่าว ก็ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือโดยพูดว่า "เมย์เดย์ ๆ ๆ" และตามด้วย "Bird Strike, Bird Strike, Going Around"
ก่อนจะบินไปลงจอดที่รันเวย์หมายเลข 19 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับรันเวย์หมายเลข 01 โดยเครื่องบินพยายามลงจอดในขณะที่ระบบล้อเลื่อนไม่ได้ยืดออก จึงเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อ 09.03 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือง่าย ๆ หลังส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเพียง 4 นาที ที่นกชนเครื่องบินก็เกิดเหตุสลดขึ้น ซึ่งตรงนี้ทางสนามบินฯ ก็ไม่มีเวลาเตรียมรถพยาบาล และรถดับเพลิงด้านล่างไว้ล่วงหน้า เพื่อช่วยเหลือได้ทันการ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า เครื่องบินลำที่เกิดอุบัติเหตุ ทำการบิน 13 ไฟลต์ ใน 48 ชั่วโมง ก่อนไปไถลนอกรันเวย์ และพุ่งชนกำแพง สะท้อนว่าใช้เครื่องบินมากเกินไปในระยะเวลาสั้น ๆ หรือไม่
รวมทั้ง กระทรวงคมนาคม ก็เริ่มตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ สำหรับเครื่องบินโบอิง 737-800 ที่มีใช้งานในเกาหลีใต้ทั้งหมด 101 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นเดียวกับลำที่เกิดเหตุสลดขึ้น และในจำนวนนี้ ก็มีสายการบินเจจูแอร์ ที่ใช้เครื่องรุ่นนี้มากที่สุดถึง 39 ลำ จากฝูงบินทั้งหมด 41 ลำ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ ก็จะมีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยของสายการบินเจจูแอร์ อย่างเข้มงวด หลังเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบฐานล้อหลายครั้ง ขณะนี้ดึงข้อมูลบันทึกการบินออกจากกล่องดำทั้ง 2 กล่องได้แล้ว แต่อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน หรือเป็นปี จึงจะสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน
ส่วนความคืบหน้าในการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาหลีใต้ ก็ยืนยันผู้เสียชีวิตได้แล้ว 88 คน และยังเร่งดำเนินการอย่างหนัก เพื่อส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตให้กับครอบครัวนำไปประกอบพิธีทางศาสนา
และจากเหตุสลดกับสายการบินเจจูแอร์ รวมทั้งยังมีเหตุใหม่เพิ่ม เพราะมีรายงานว่า เที่ยวบินเจจูแอร์ เส้นทางกรุงโซล-เกาะเจจู จากสนามบินคิมโพ พบปัญหาล้อเครื่องบินทำงานผิดปกติ หลังขึ้นบินไม่นาน จึงต้องนำเครื่องกลับลงจอดที่สนามบินคิมโพอีกครั้ง นำมาสู่การขอยกเลิกตั๋วเครื่องบินเกือบ 70,000 ที่นั่ง โดยเพียงช่วงบ่ายโมงตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ ก็ยกเลิกไปถึง 68,000 ที่นั่ง ทำให้ภายในสนามบินฯ มีผู้เดินทางบางตา และเงียบเหงาทันที อาจเพราะยังตกใจกับโศกนาฎกรรม และเหตุระทึกขวัญที่เกิดขึ้นติด ๆ กัน
ด้าน นาย ชเว ซัง-มก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ก็ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ 7 วัน และจะให้คณะรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนติดโบว์ไว้อาลัย พร้อมจะเร่งตรวจสอบความปลอดภัยทางการบินทั้งระบบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำ
ขณะที่ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ลดธงลงครึ่งเสา ไว้อาลัยผู้สูญเสีย พร้อมประสานกับทางการเกาหลีใต้ ในการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางสำหรับญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางจากไทยไปเกาหลีใต้ เพื่อยืนยันตัวตนในการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล และดูแลด้านเอกสาร
ซึ่งวานนี้ น้าชายและน้องชายของ นางสาวสิริธร หรือ น้องเหมย อายุ 22 ปี 1 ใน 2 คนไทยที่เสียชีวิต ก็เดินทางไปยังเกาหลีใต้แล้ว
โดยก่อนเดินทาง น้าของน้องเหมย บอกว่า ทุกคนในครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบร่างของน้องเหมย หากพบแล้ว ก็ต้องตรวจเพื่อยืนยันดีเอ็นเอ ส่วนการนำน้องเหมยกลับไทย จะให้แม่ของน้องเป็นผู้ตัดสินใจดำเนินการเรื่องศพจนแล้วเสร็จ ก่อนติดตามค่าเยียวยาต่อไป
ส่วนการเยียวยา และให้ความช่วยเหลือจากฝั่งไทย กรณี นางสาวจงลักษ์ ดวงมณี ที่เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี นั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็สั่งเร่งให้ความช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ โดยทายาทจะได้รับสิทธิประโยชน์ ค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์ กรณีเสียชีวิต 28,800 บาท เงินบำเหน็จชราภาพกว่า 109,751.28 บาท รวมเป็นเงินกว่า 188,551 บาท
ส่วนข้อมูลจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. พบว่า นางสาวจงลักษ์ ทำประกันชีวิตทุน 200,000 บาท และได้ทำประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ ทุนประกัน 100,000 บาท
ขณะที่ น้องเหมย ก็มีทำประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับนักเรียนนิสิต และนักศึกษาของทางมหาวิทยาลัยไว้ โดยมีทุนประกันภัย 200,000 บาท ด้านกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หากพบการกู้ยืมจะยกหนี้ให้ทั้งหมด