ผลสอบ “เจจูแอร์” ตก ชี้นักบินปิดสวิตช์เครื่องยนต์ผิดข้าง ด้านญาติผู้เสียชีวิต ประท้วงผลการตรวจสอบ ที่โยนให้เป็นความผิดพลาดของนักบินเป็นหลัก
(21 ก.ค.68) สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน อ้างแหล่งข่าวจากเกาหลีใต้ว่า จากการสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ เครื่องบินสายการบิน Jeju Air ไถลออกนอกรันเวย์ ชนเข้ากับเนินคอนกรีต และระเบิด ที่สนามบินมูอัน จนมีผู้เสียชีวิตถึง 179 ราย และรอดชีวิตเพียง 2 คน เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2024 ที่ผ่านมา มีความคืบหน้า
โดยมี "หลักฐานที่ชัดเจน" ที่บ่งชี้ว่านักบินได้ปิดเครื่องยนต์ที่ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย หลังจากเครื่องบินถูกนกชน
แหล่งข่าว กล่าวว่า หลักฐานดังกล่าว รวมถึง เสียงที่ถูกบันทึกจากห้องนักบิน, ข้อมูลคอมพิวเตอร์ และสวิตช์เครื่องยนต์ที่พบในซากเครื่องบิน แสดงให้เห็นว่านักบินได้ปิดเครื่องยนต์ด้านซ้ายแทนที่จะเป็นเครื่องยนต์ด้านขวา ในขณะที่ดำเนินการตามขั้นตอนฉุกเฉินหลังจากถูกนกชน ก่อนที่เครื่องบินจะถึงกำหนดลงจอด
"ทีมสอบสวนมีหลักฐานและข้อมูลสำรองที่ชัดเจน ดังนั้นข้อสรุปจะไม่เปลี่ยนแปลง" แหล่งข่าวกล่าวกับรอยเตอร์ โดยไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากผู้สอบสวนยังไม่ได้ออกรายงานอย่างเป็นทางการซึ่งรวมถึงหลักฐานนี้
วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุทางการบินและรถไฟ ((ARAIB)) แถลงผลรายงานการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินตก ซึ่งระหว่างจะแถลง ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบิน เจจูแอร์ตก ออกมาคัดค้านไม่ให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุทางการบินและรถไฟ ((ARAIB)) แถลงผลรายงานการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินตก เพราะ ญาติรู้สึกข้องใจ กับผลตรวจสอบ ที่ดูเหมือนว่าจะโยนความผิดให้กับนักบิน โดย ญาติผู้เสียชีวิตมองว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เป็นเพราะฐานเสานำทางไม่ใช่วัสดุยืดหยุ่น และไม่ควรสร้างกำแพงใกล้รันเวย์ขนาดนั้น