ชายคลั่งทำร้ายผู้ป่วย ใน รพ.ถูกยิงตาย

View icon 112
วันที่ 4 ม.ค. 2568 | 16.14 น.
เจาะประเด็นข่าว 7HD
แชร์
เจาะประเด็นข่าว 7HD - แม่ของชายที่คลุ้มคลั่ง คาใจ การควบคุมตัวผู้ต้องหา อาจไม่เป็นตามยุทธวิธีหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด จากเหตุลูกชายใช้ขวานไล่จาม ทำร้ายเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล จนถูกตำรวจยิงเสียชีวิต

เหตุที่ผู้ป่วยคดียาเสพติด และเคยติดคุกในคดียาเสพติดมาแล้วถึง 2 ครั้ง เข้าไปรักษาอาการป่วย โรคไส้ติ่งอักเสบ ในโรงพยาบาลสุรินทร์ หลังผ่าตัดเสร็จ นอนพักฟื้นอยู่ห้องผู้ป่วยรวม แต่จู่ ๆ มีอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาด ใช้ขวานขนาดใหญ่ ที่เก็บไว้เป็นอุปกรณ์ดับเพลิง และเสาน้ำเกลือ วิ่งไล่ทำร้ายพยาบาล ผู้ป่วย และญาติผู้ป่วย จนต้องวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ไปทั้งชั้น 4 อาคาร 9 โรงพยาบาล อีกทั้งผู้ก่อเหตุ ยังทำลายทรัพย์สินภายในโรงพยาบาล พังเสียหาย

เหตุการณ์นี้ ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ 2 นาย คือ ร้อยตำรวจเอก อุบล และ สิบตำรวจเอก วสันต์ สภ.เมืองสุรินทร์ จึงเข้าไประงับเหตุ สั่งให้ผู้ก่อเหตุหยุด วางอาวุธ แต่ไม่เป็นผล ก่อนที่ นายอภิชัย อายุ 26 ปี ที่เกิดเหตุ ได้ใช้ขวานวิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ แล้วง้างขวานจะจามใส่ตำรวจทั้ง 2 นาย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงปืนใส่ 4 นัด ป้องกันตัวและระงับเหตุ ทำให้นายอภิชัยได้รับบาดเจ็บที่ขา มือ หน้าท้อง และอก ก่อนที่แพทย์ได้เข้าช่วยเหลือ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

หลังเกิดเหตุ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุรินทร์ เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ และเก็บวัตถุพยานทางคดี เพื่อประกอบสำนวนคดี เบื้องต้น ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ได้พูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตแล้ว โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้น ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดได้ แต่ยืนยัน ตำรวจปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ และเป็นการป้องกันตัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธขวานยาว วิ่งไล่จามใส่

ทีมข่าวลงพื้นที่บรรยากาศที่งานศพ ที่อำเภอจอมพระ เป็นไปด้วยโศกเศร้า จะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (5 ม.ค.) โดยแม่ของผู้เสียชีวิต ยอมรับว่า ลูกชายเคยถูกจับคดียาเสพติด ตอนอายุ 16 ปี และมีพฤติกรรมเสพยา แต่ติดใจการเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหา ที่เจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงถึง 4 นัด และไม่ได้ปฏิบัติตามยุทธวิธีการควบคุมตัว พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการเปิดภาพจากกล้องวงจรปิด

ส่วนมาตรการป้องกัน ดูแลผู้ป่วย ผอ.โรงพยาบาลสุรินทร์ ยืนยันว่า โรงพยาบาลมีมาตรการในการควบคุมการดูแลความปลอดภัยในโรงพยาบาลเข้มงวด เพราะเคยคนไข้คลุ้มคลั่งลักษณะนี้มาก่อน อีกทั้งรู้ประวัติคนไข้รายนี้ จึงแยกผู้ป่วยออกไปจากผู้ป่วยคนอื่น หลังจากเริ่มมีอาการ เสียงดัง กระทั่งมีอาการคลุ้มคลั่ง แต่แพทย์ ไม่สามารถควบคุมตัวได้ เพราะคนไข้ เพิ่งพักฟื้น จากการผ่าตัดใส้ติ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง