ฯพณฯ นายโจเซฟ อาร์. ไบเดน จูเนียร์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ข้าพเจ้าและพระราชินีรู้สึกเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อการจากไปของ ฯพณฯ นายเจมส์ เอิร์ล คาร์เตอร์ จูเนียร์ อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ผู้ที่เป็นดั่งมิตรแท้และได้รับความไว้วางใจของประเทศไทย การจากไปของท่านอดีตประธานาธิบดีนับเป็นการสูญเสียรัฐบุรุษซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำคนสำคัญของโลก ที่อุทิศตนเพื่อประเทศและมวลมนุษยชาติ เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องนับถือและการชื่นชมจากนานาประเทศมายาวนาน
ท่านอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์เป็นแบบอย่างของความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ เพื่อเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงของโลก และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาส อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งได้ยังผลให้มิตรภาพที่มีมายาวนานระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศไทยแน่นแฟ้นเป็นอย่างยิ่ง ประเทศของเราทั้งสองได้ร่วมมือกันอย่างไม่ลดละเพื่อสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายหลังความขัดแย้ง และในการเผชิญความท้าทายที่ตามมาจากการหลั่งไหลของผู้อพยพจำนวนมาก ภายใต้การนำของท่านอดีตประธานาธิบดี ยังได้เกิดความเป็นหุ้นส่วนสำคัญระหว่างอาเซียนกับสหรัฐอเมริกา โดยมุ่งเน้นในด้านการค้า การลงทุน และการพัฒนาทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
ประเทศไทยระลึกถึงการมาเยือนเป็นการส่วนตัวของท่านอดีตประธานาธิบดีถึงสองครั้ง ในปี 2549 และปี 2552 ซึ่งการเยือนดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้การดำเนินโครงการด้านมนุษยธรรมของท่านภายใต้มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติประสบผลสำเร็จ
คุณูปการจากการเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และห่วงใยของท่านอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์ได้นำมาซึ่งความหวังและการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งแก่ผู้คนทั้งหลายทั้งในสหรัฐอเมริกา ประเทศไทย และภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก
ข้าพเจ้าและพระราชินีขอร่วมไว้อาลัยกับประชาชนของสหรัฐอเมริกา ต่อการสูญเสียผู้นำคนสำคัญ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ในนามของประชาชนชาวไทย มายังท่านประธานาธิบดี ตลอดถึงครอบครัวของท่านอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์ และประชาชนของสหรัฐอเมริกา ในการสูญเสียที่นำมาซึ่งความโศกเศร้าและไม่อาจทดแทนได้นี้
(พระปรมาภิไธย)
มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว